ผบก.ภ.จว.ตาก สั่งยกเลิกฝากขัง 'ณิชา' หลัง ผบ.ตร. แถลงไม่เกี่ยวแก๊งโรแมนซ์สแกม พร้อมเยียวยาตามกฎหมาย
logo ข่าวอัพเดท

ผบก.ภ.จว.ตาก สั่งยกเลิกฝากขัง 'ณิชา' หลัง ผบ.ตร. แถลงไม่เกี่ยวแก๊งโรแมนซ์สแกม พร้อมเยียวยาตามกฎหมาย

12,190 ครั้ง
|
17 ม.ค. 2561
     จากกรณีคดีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง หลังจากผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีของ น.ส.ณิชา ขณะที่เจ้าตัวยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และบัตรประชาชนหาย คาดว่าคนร้ายจะนำไปใช้เปิดบัญชี จนนำไปสู่การนำพยานหลักฐานต่างๆเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ต่อมาตำรวจ สภ.บ้านตาก จ.ตาก ซึ่งเป็นท้องที่ผุ้เสียหายแจ้งควาดมำเนินคดี ได้นำตัว น.ส.ณิชาไปขออำนาจศาลฝากขัง ก่อนจะได้รับการประกับตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นสอบสวน ต่อมาตำรวจได้จับกุมแก๊งโรแมนซ์สแกมที่ก่อเหตุ ขณะที่มีข่าวว่า น.ส.ณิชา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งดังกล่าวด้วยนั้น ขณะที่เมื่อช่วงเช้า พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ แถลงข่าวยืนยันว่า น.ส.ณิชา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ขบวนการแก๊งโรแมนซ์สแกม นั้น
 
     ล่าสุด พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า ทางด้านการสอบสวนคดี น.ส.ณิชา เมื่อผลสรุปสำนวนของชุดสืบสวน ทั้งส่วนกลางและระดับ ภ.จว.ตาก มีความเห็นตรงกัน ที่จะสั่งขอยกเลิกคำร้องผัดฟ้องและฝากขัง พร้อมยืนคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัว น.ส.ณิชา ทันที ในวันนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจาก ชไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุฉ้อโกงผู้เสียหาย  แต่ในกระบวนของศาล น.ส.ณิชา ยังคงต้องเดินทางมารายงานตัวยังศาลจังหวัดตาก ในวันที่ 18 ม.ค. ตามหมายนัดเดิม เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการขอคืนเงินประกันตัว จำนวน 80,000 บาท 
 
     แต่ในส่วนการสืบสวนสอบสวน ยังคงต้องดำเนินการต่อไป ตามคดีที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ในขบวนการแก๊งโรแมนส์สแกม ประกอบด้วย น.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์ อายุ 31 ปี ,น.ส.เจรติ หรือแอน สายสิญน์ และ นายอายัค ไซม่อน อิโก้ ชาวแคเมอรูน หัวหน้าแก๊ง ที่ถูกควบคุมตัวไว้ไว้แล้ว 
 
     ส่วนด้านการเยียวยาช่วยเหลือ น.ส.ณิชา ทางด้านยุติธรรมจังหวัดตาก ได้เตรียมแจ้งให้ น.ส.ณิชา มาขอใช้สิทธิ์ ในวันที่ 18 ม.ค. ในการขอความช่วยเหลือ ด้านค่าทนายความ ,ค่าตรวจสอบ ค่าเอกสาร ,ค่าเดินทาง ฯลฯ ส่วนการถูกการควบคุมในเรือนจำ จำนวน 3 วัน ก็มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชย จาก พรบ.ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางอาญาฯ ซึ่งเรื่องนี้จะมีคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมพิจารณา ว่าจะได้รับการช่วยเหลือเท่าไหร่อีกครั้ง