ผบช.ตร.ปราบปรามยาเสพติดเห็นด้วยให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์-ผอ.สถาบันมะเร็งฯเตือนยังไม่วิจัยในคน
logo ข่าวอัพเดท

ผบช.ตร.ปราบปรามยาเสพติดเห็นด้วยให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์-ผอ.สถาบันมะเร็งฯเตือนยังไม่วิจัยในคน

ข่าวอัพเดท : ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เห็นด้วยหากมีการเปลี่ยนกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เป็นประเภทที่ 2 เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการ กัญชา,ยาเสพติด,สถาบันมะเร็ง

6,752 ครั้ง
|
17 ม.ค. 2561
ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เห็นด้วยหากมีการเปลี่ยนกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เป็นประเภทที่ 2 เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อลดปัญหาการลักลอบนำเข้าส่งไปประเทศที่สามที่มีความต้องการนำไปใช้ประโยชน์ ด้านผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติเตือนต้องศึกษาต่ออีกเหตุยังไม่มีงานวิจัยในคน ระบุอย่าใช้เองเสี่ยงกระทบสุขภาพ 
 
พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่าเห็นด้วยหากมีการเปลี่ยนกัญชา ที่ปัจจุบันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 มาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 เพื่อใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคมะเร็งที่มีผลวิจัยว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยสถานการณ์ยาเสพติดประเภทกัญชา ในปัจจุบันถือว่าเริ่มมีแนวโน้มลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งเพาะปลูกอย่างดี และเป็นที่ต้องการของหลายประเทศในต่างประเทศที่เปิดให้ใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างเสรี แต่หากมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศขณะนี้ยังถือว่ามีความผิดต้องจับดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และได้เชิญกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาด้านกฎหมาย ซึ่งหากผลการพิจารณาของคณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางใด ตำรวจก็พร้อมดำเนินการตาม
 
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวถึงการใช้สารสกัดจากกัญชาเพื่อรักษาโรคมะเร็งว่า แม้จะมีการระบุว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ในต่างประเทศก็ยังอยู่ในขั้นของการทดลองในสัตว์ทดลอง และไม่ใช่ว่าทำ 1-2 เดือนแล้วจะได้ข้อสรุป
 
“เมื่อเสร็จในห้องทดลอง สัตว์ทดลองแล้วยังต้องมีการทดลองในมนุษย์ ทดลองกับผู้ป่วยเพื่อให้รู้ว่าสามารถใช้กับมะเร็งชนิดไหน ปริมาณเท่าไหร่ ใครใช้ได้ หรือไม่ควรใช้อย่างไร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการวิจัยในมนุษย์เลย ส่วนในประเทศไทยเองควรพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่เอื้อต่อการศึกษาวิจัยอย่างรัดกุม เมื่อเทียบกับคุณประโยชน์ที่ยังอยู่ในขั้นของการทดลองซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ไม่อยากให้ประชาชนไม่ทดลองใช้เอง เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ มากแค่ไหน แทนที่จะเกิดประโยชน์กลับจะเป็นโทษ เพราะกัญชาเป็นยาเสพติดที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ” นพ.วีรวุฒิกล่าว