อุตุฯ ประกาศ ฉ.9 ไทยตอนบนอากาศลดฮวบ 4-6 องศา กทม.ฝนลดลงอุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา
logo ข่าวอัพเดท

อุตุฯ ประกาศ ฉ.9 ไทยตอนบนอากาศลดฮวบ 4-6 องศา กทม.ฝนลดลงอุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา

9,022 ครั้ง
|
10 ม.ค. 2561
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศฉบับที่ 9 ลงวันที่ 10 มกราคม 2561
"อากาศหนาวเย็นลงบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 10-15 มกราคม 2561)" 
 
    วันที่ 10 มกราคม 2561 บริเวณภาคเหนือ และด้านตะวันตกของภาคกลาง จะยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนลดลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-15 มกราคม 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงได้ 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
        
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว และจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2561
 
        มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-15 มกราคม 2561
 
        จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 
        ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.  กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.
 
        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ 
ลำพูน ลำปาง และตาก 
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค 
อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-9 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
 
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี 
ราชบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา 
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
 
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส 
ตั้งแต่ จ.ชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 
ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง