ชาวบ้าน 52 คนโร่ร้อง สภ.บางบาล ถูกนายหน้าเชิญชวนให้เปิดบัญชีพร้อมขอบัตรประชาชนและอีเมล์พร้อมรหัสผ่าน อ้างจะมีเงินจากการลงทุนปริศนาส่งเข้ามาให้แต่ผ่านมาเกือบ 8 เดือนยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว หวั่นถูกนำบัญชีและข้อมูลไปใช้ก่ออาชญากรรมแม้ไม่ถูกเรียกรับเงินและยังไม่พบความเสียหาย ร้องตร.ขออายัดบัญชีและเอกสารคืน ด้านนายหน้าระบุเอกสารเข้าระบบไปแล้วหาคืนยาก แต่ยินยอมให้อายัดบัญชี พร้อมปฏิเสธไม่ได้นำหลักฐานของชาวบ้านไปก่ออาชญากรรม แต่ที่ยังไม่ได้เงินเพราะให้น้องสาวจัดการลงทุนให้ ตร.ระบุยังเอาผิดนายหน้าไม่ได้เพราะยังไม่ถือว่าเกิดความเสียหาย
พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดเผยว่า ชาวบ้าน 52 คน ซึ่งเป็นชาวอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดยนายนิพนธ์ ใยขาว อายุ 43 ปี เข้าแจ้งความกับ สภ.บางบาล ระบุว่ามีนายหน้าให้เปิดบัญชีธนาคาร พร้อมขอสำเนาบัตรประชาชน ที่อยู่อีเมล์และรหัสผ่านตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 โดยอ้างว่าจะมีเงินจากการลงทุนโอนเข้าบัญชีดังกล่าว ซึ่งนายหน้าจะขอหักไว้ 40% ส่วนอีก 60% จะมอบให้ชาวบ้าน แต่ปัจจุบันชาวบ้านยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
แม้จะยังไม่พบความเสียหาย และชาวบ้านทั้งหมดยืนยันว่านายหน้ากลุ่มดังกล่าวไม่ได้เรียกรับเงินใดๆ แต่ชาวบ้านทั้งหมดเกรงว่าจะถูกหลอกและนำเอกสารไปใช้ในทางมิชอบ จากการเห็นข่าวถูกเอาบัตรประชาชนไปแอบอ้างเปิดบัญชีเพื่อฟอกเงินหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดในช่วงนี้ จึงเข้าร้อง สภ.บางบาลเพื่อขอให้ดำเนินการอายัดบัญชีและขอเอกสารที่ให้ไปทั้งหมดคืน
ซึ่งล่าสุด ตร.สภ.บางบาลได้เชิญตัวนายหน้ากลุ่มดังกล่าวจำนวน 2 คนมาให้การ โดยทั้งสองคนเป็นคนในพื้นที่อ.บางบาล คนหนึ่งมีอาชีพเป็นมัคทายก อีกคนหนึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทั้งสองปฏิเสธว่าไม่ได้นำเอกสารไปกระทำในทางมิชอบ พร้อมให้การว่าเหตุที่มาชักชวนชาวบ้านเปิดบัญชีนั้นเพราะเห็นชาวบ้านยากจน อยากให้มีเงินทองใช้บ้าง ส่วนเหตุผลที่ชาวบ้านไม่ได้รับเงินนั้น หนึ่งในสองนายหน้าอ้างว่าตนมีน้องสาวอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ และเป็นผู้ดำเนินการลงทุนให้ จึงทำให้ยังต้องรอเงินรายได้จากทางน้องสาวอยู่ โดยนายหน้ากลุ่มดังกล่าวไม่ยอมเปิดเผยว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนประเภทใดหรือลงทุนในสินทรัพย์ใด
ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ พ.ต.อ.กันตพงษ์ระบุว่าเนื่องจากกรณีนี้ยังไม่เข้าองค์ประกอบว่าเกิดความเสียหาย เนื่องจากชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับเงินในการเปิดบัญชี มีเฉพาะที่ชาวบ้านให้เงินโดยเสน่หา 2,000 บาทเพื่อขอให้เร่งรัดการดำเนินการเปิดบัญชีเนื่องจากมีชาวบ้านขอเปิดบัญชีเป็นจำนวนมาก จึงได้แต่รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และให้ชาวบ้านนำหลักฐานการแจ้งความไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีต่อไปแต่ยังไม่สามารถเอาผิดนายหน้าได้ ซึ่งนายหน้าทั้งสองคนไม่ขัดข้องที่จะให้ชาวบ้านอายัดบัญชี ส่วนที่ชาวบ้านต้องการเอกสารคืนนั้น นายหน้าทั้งสองคนอ้างว่าเอกสารได้ส่งเข้าระบบไปแล้ว คงหามาคืนยาก แต่ถ้าจะขอคืนจริงก็ต้องมีการดำเนินการต่อไป
ส่วนกรณีการนำอีเมล์และรหัสผ่านของชาวบ้านไป พบความผิดปกติใดๆ หรือไม่ พ.ต.อ.กันตพงษ์ระบุว่า จากการสอบปากคำจากชาวบ้านที่มาแจ้งความ ได้ความว่าชาวบ้านที่เป็นผู้สูงอายุก็จะไม่มีอีเมล์ ส่วนคนที่มีอีเมล์และให้ไปคือชาวบ้านวัย 30-40 ปีที่พอจะมีการใช้งาน และยังไม่พบความผิดปกติใดๆ กับอีเมล์เช่นกัน
พ.ต.อ.กันตพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปากคำของนายหน้าที่ระบุว่ามีน้องสาวช่วยลงทุนที่ จ.บุรีรัมย์นั้น ขณะนี้ตนได้สั่งให้ตร.สภ.บางบาลประสานงานกับทางตำรวจที่ จ.บุรีรัมย์เพื่อสอบถามว่ามีคดีหรือกรณีใดๆ ที่สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ได้หรือไม่
+ อ่านเพิ่มเติม