เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ชั้น 4 อาคาร B ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือ ‘ดีเจเก่ง’ ที่รู้จักกัน เก่ง เกียร์อาร์ อายุ 37 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ปัสสิทธิ์ ศรีสุโพธิ์ รอวสว.(สอบสวน)กก.3บก.ปอท. หลังถูกพาดพิงถึงกรณีวัยรุ่นต่อยสาวในรถแท็กซี่พร้อมถูกตัดต่อภาพทำให้เสียชื่อเสียง
นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนตั้งใจจะเดินทางมาแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท ตัดต่อรูปภาพ และข้อความที่เป็นเท็จ จากกรณีที่มีเพจชื่อดังเพจหนึ่ง มีสมาชิกกว่า 300,000 คน มีเฟซบุ๊กที่ชื่อ “Tum pratchya phiromrat หรือ ตั้ม “โพสต์ข้อความว่า นายดำต่อยผู้หญิง ไม่ได้รับโอกาส แต่ทำไมเก่งเกียร์อาร์กับน๊อต ทำผิดแต่ทำไมถึงได้รับโอกาสจากสังคม นอกจากนั้นยังโดนตัดต่อรูปของตนกำลังดมกาว และระบุชื่อของตนชัดเจน ลงโซเชี่ยลและแชร์ต่อเรื่อยๆ พร้อมกับข้อความและรูปภาพที่ไม่เป็นความจริง เพราะแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ ตนยังไม่เคยยุ่งเกี่ยว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะดมกาว โดยทางด้านครอบครัวของตนเห็นภาพนี้รู้สึกรับไม่ได้ และนอกจากนั้นยังมีคอมเม้นต์ของบุคคลหนึ่ง ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “Chupong Oobbenjasup หรือ ชู “นำภาพเก่าๆของตนมาทับถม และตั้มก็มีการนำรูปไปโพสต์ในเพจอื่นและนำไปแชร์ต่อ
นายภัทรศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีรูปที่โชว์โลโก้สถานีที่ตนกำลังจัดอยู่ และมีการนำรูปภาพเก่ามาแชร์ ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง โดยส่วนตัวตนนั้นจัดรายการวิทยุ พิธีกร เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์สินค้า และยังทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้มีผลกระทบและเกิดความเสียหาย โดยตนทราบว่า ตั้มและชู เป็นแฟนคลับเพจดาร์กแห่งหนึ่ง ตนจึงได้ทักแชทเฟซไปหา ตั้ม เพื่อคุยเป็นการส่วนตัวว่าตนจะแจ้งความ และในขณะนี้กำลังรอหมายอยู่ ด้าน ตั้ม จึงได้ส่งข้อความมาขอโทษตน แต่ตนไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจาก ตนได้รับความเสียหายแล้ว จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ
“อยากฝากถึงทุกๆคนถ้าหากข้องใจหรือสงสัยอะไรสามารถถามตนได้ อย่าแชร์ภาพหรือนำภาพเก่ามาทับถมเพื่อให้เกิดความเสียหาย ถ้าเกิดไม่รู้ความจริงอะไรไม่สมควรแชร์ ควรเสพสื่ออย่างพิจารณา หากเจอกรณีแบบนี้ สามารถแจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง เข้าข่ายความผิดมาตรา 16 นำภาพตัดต่อไปเผยแพร่โดยที่ไม่เป็นความจริง มีโทษ จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ก็จะติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี เพราะถือว่ากรณีที่ตนพบเจอเป็นกรณีตัวอย่างให้สังคมได้รับรู้ได้” นายภัทรศักดิ์ กล่าว
ร.ต.อ.ปัสสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และดำเนินการรับเรื่องและส่งไปยังสน. ท้องที่เกิดเหตุ และรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาให้นำเรื่องไปพิจารณาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด
+ อ่านเพิ่มเติม