นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 53/2560 ที่กำหนดขยายระยะเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางธุรการได้โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ว่า หากจะทำการยื่นหนังสือเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็ต้องมีเหตุผลและข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะยื่น ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่อง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังพิจารณารายละเอียด ซึ่งหากพิจารณาแล้วเข้าเงื่อนไขเพียงพอที่จะต้องทำการยื่น เช่น ไม่สอดคล้องหรือเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคจะทำการยื่นหนังสื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตีความ แต่หากพิจารณาว่าไม่ขัดก็จะไม่ยื่น ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงหลังเทศกาลปีใหม่
ส่วนการออกคำสั่งคสช.นี้จะส่งผลให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ระบุว่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามกติมาโดยตลอด และยังไม่เห็นว่ามีอุปสรรคหรือเหตุผลที่จะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าการไม่ปลดล็อคของ คสช. ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองใหม่มากที่สุด ไม่ใช่พรรคเก่า และจะเป็นการเพิ่มล็อคให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อพรรคการเมืองใหม่ ส่วนจะมีการแก้ปัญหาให้พรรคการเมืองใหม่อย่างไรนั้นไม่กังวล แต่ขอให้ทำการแข่งขันกันโดยการสร้างศรัทธาไม่ใช่นำเอาเครื่องมือที่มีมาทำลายคนอื่น
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวจะถือเป็นการนำอำนาจรัฐมาช่วยในการตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า หากมีการนำอำนาจรัฐมาเอื้อประโยชน์ในทางการเมืองนั้นก็ไม่ต่างจากอดีตที่ผ่านมาที่เรียกกันว่าระบอบทักษิณ ซึ่งการปฏิรูปก็จะไม่เกิดผล รวมถึงธรรมาภิบาลก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งการใช้อำนาจรัฐที่ไม่สามารถทำการตรวจสอบถ่วงดุลได้นั้น จะส่งผลทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย
ส่วนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง คสช. ที่มีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังมีประเด็นที่ไปกระทบสิทธิของประชาชนในการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดำเนินการ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของพรรคว่าจะยื่นเมื่อใด เพราะเสียงส่วนใหญ่ภายในพรรคขณะนี้แนะนำให้ทำหนังสือหารือไปยัง คสช. ก่อน หาก คสช. ยังไม่ยอมก็ค่อยยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเร็วๆนี้นายทะเบียนพรรคจะทำหนังสือถึง คสช. ให้แก้ปัญหาเรื่องนี้
ด้ารพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีที่แกนนำพรรคการเมืองหลายพรรคกังวลต่อคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53 / 2560 จะเป็นการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองว่า ไม่ได้เป็นการเซ็ตซีโร่ เพราะพรรคการเมืองยังอยู่เหมือนเดิม แต่วัตถุประสงค์ของคำสั่งนั้นเพื่อให้พรรคใหม่และพรรคเก่า เริ่มดำเนินการพร้อมกัน โดยไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคใหม่ เพราะพรรคใหม่ได้เริ่มก่อนเพียงแค่ 1 เดือน
ขณะที่สมาชิกพรรคการเมืองเก่า ยังอยู่กันเหมือนเดิม และคณะกรรมการบริหารพรรคก็อยู่เหมือนเดิมเช่นกัน ทั้งนี้หลังวันที่ 1 เมษายน 2561 จะมีการปลดล็อคพรรคการเมืองใน 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือทางด้านธุรการ ส่วนขั้นตอนที่ 2 คือการหาเสียงและทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปที่ตั้งไว้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และในที่ประชุมที่ผ่านไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย
+ อ่านเพิ่มเติม