ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งรัสเซียอีกหนึ่งสมัย ในการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า หากเขาชนะและอยู่ครบเทอม จะกลายเป็นผู้นำประเทศที่อยู่ในอำนาจทั้งประธานาธิบดีและนายกฯ รวมถึง 25 ปี
ประธานาธิบดีปูตินได้ประกาศถึงความตั้งใจดังกล่าวในระหว่างที่กล่าวคำปราศรัยกับบรรดาคนงานในโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองวอลกาแคว้นนิจนีนอฟโกร็อด โดยกล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจแล้วที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกหนึ่งสมัย สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินอยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2542 โดยระหว่างเดือนสิงหาคม 2542-พฤษภาคม 2543 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากนั้นปูตินชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยแรกและสมัยที่สองแบบลอยลำ และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัยในเดือนพฤษภาคม 2543-พฤษภาคม 2551 แล้วกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2551-พฤษภาคม 2555 ตามข้อห้ามในรัฐธรรมนูญที่ห้ามดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกิน 2 สมัยติดต่อกัน แล้วจึงชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2555 ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 4 ในเดือนมีนาคมปีหน้า เขาจะอยู่ในอำนาจต่อไปอีกจนถึงปี 2567
ส่วนนางเซเนีย ซ็อบแชค ผู้ประกาศข่าวทีวีและสาวสังคมชื่อดังของรัสเซีย ก็ได้ประกาศจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้เช่นกัน แต่โพลสำรวจความคิดเห็นทุกโพลชี้ตรงกันว่า ประธานาธิบดีปูตินคือผู้ที่จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนนายอะเล็กเซ นาวาลนี คู่แข่งคนสำคัญของปูตินได้ถูกห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เนื่องจากมีความผิดในข้อหายักยอก ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
นายปูตินเป็นที่นิยมในหมู่ชาวรัสเซีย ซึ่งมองว่าเขาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและเป็นผู้กอบกู้รัสเซียในเวทีโลก กับการตัดสินใจมีบทบาทในสงครามกลางเมืองของซีเรีย และการควบรวมสาธารณรัฐไครเมียจากยูเครนให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์ส่วนหนึ่งมองว่าเขามีส่วนในการคอร์รัปชั่นและการควบรวมไครเมียอย่างผิดกฎหมาย และนำมาซึ่งเสียงประณามจากนานาชาติ
(ข่าว : BBC / ภาพ : Reuters)
+ อ่านเพิ่มเติม