นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีหญิงไทย 2 คนถูกจับที่สนามบินนาริตะในข้อหามียาเสพติดประเภทโคเคนและพยายามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้ตำรวจญี่ปุ่นกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายญี่ปุ่น (จับกุม-ฝากขัง-สอบสวน-รวบรวมข้อมูล-ยื่นฟ้องศาล-ตัดสินคดี) หากศาลตัดสินว่ามีความผิด หญิงไทยทั้ง 2 คนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 30 ล้านเยนหรือ 8,700,000 บาท ซึ่งโทษจำคุกอาจเพิ่มอีกตามประเภทยาเสพติด หลังจากรับโทษแล้วก็จะถูกเนรเทศ ทั้งนี้ ยังไมได้รับการติดต่อจากทางการญี่ปุ่นว่าหญิงไทยทั้ง 2 คนต้องการความช่วยเหลือในด้านกงสุล
ทางกระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนว่า การลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นมีโทษรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อการเข้าประเทศญี่ปุ่นของตนเอง นักท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวอื่นๆในอนาคต สำหรับนักท่องเที่ยว ขอเตือนว่าไม่ควรรับฝากของจากคนไม่รู้จัก และเราไม่รู้ว่าสิ่งของที่รับฝากคืออะไร ส่วนผู้ที่เดินทางไปทำงาน ขอให้ศึกษาสัญญาว่าจ้างให้ละเอียดว่ามีส่วนใดเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายหรือไม่
ส่วนแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศนั้น กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ หากต้องการกลับประเทศแต่ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางกลับ ทางสถานทูตและสถานกงสุลยินดีทดรองจ่ายให้ก่อนโดยผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือต้องเซ็นยอมรับสภาพหนี้เพื่อใช้คืนภายหลัง ทั้งนี้ สามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศได้ที่ ไลน์ไอดี Thaiconsular, แอปพลิเคชัน Thai Consular และคอลเซนเตอร์ 02-572-8442 ตลอด 24 ชม.
(ภาพจาก FB : ธนากร ใจสุขสกุลดี)
+ อ่านเพิ่มเติม