วันที่ 6 ธันวาคม 2560 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชุมพร แม้ฝนจะเริ่มหยุดตกและมีแสงแดดแล้ว แต่ปริมาณน้ำสะสมจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2560 ได้ขยายวงเป็น 6 อำเภอ คือ อ.ละแม อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.เมือง อ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว
โดยเฉพาะถนนสายเอเชีย 41 ช่วงหน้าสถานีขนส่งชุมพรเมืองใหม่-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดชุมพร ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร มีน้ำท่วมผิวการจราจร 30 ซม. เป็นระยะทางประมาณ 1 กม. รถเล็กโหลดเตี้ยไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแนะนำให้รถขนาดเล็กหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางเส้นอื่นซึ่งต้องอ้อมไปไกลกว่า 30 กม. ขณะที่บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร โดยเฉพาะบ้านบางเป้ง ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร ราษฎรต้องขนย้ายข้าวของกันกลางดึก ขึ้นมากางเต็นท์นอนบนถนนชั่วคราว สรุปปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างหนักเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 วัดได้ในพื้นที่ อ.เมือง 250 มม. ส่วน อ.ท่าแซะวัดได้ 170 ซม. ทำให้ระดับน้ำในคลองท่าตะเภาและคลองชุมพรยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมออกประกาศเตือนภัยให้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทันที
ข่าวแจ้งว่า ถนนสายเอเชีย 41 จากแยกปฐมพรประมาณ 1 กม.มีน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 ซม.เป็นระยะทางกว่า 200 เมตร รถทุกชนิดสามารถผ่านได้อย่างช้าๆ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยยืนแนะนำผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันไม่ให้รถตกข้างทางหรือตกลงไปในร่องกลางถนน แต่ก็ยังมีรถบรรทุกสิบล้อตกร่องกลางถนน 1 คัน ต้องใช้รถเครนช่วยยกขึ้น ขณะนี้น้ำได้ผ่านจากคลองชุมพรเข้าไปยังพื้นที่ส่วนในของ อ.เมืองชุมพรแถววัดประเดิม ต.ตากแดดแล้ว ส่วนถนนสายชุมพร-ระนองยังคงมีน้ำท่วมขังขอบทางทั้งสองฝั่ง จึงทำให้รถผ่านได้อย่างช้าๆ
นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 6 ธันวาคม 2560 น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านนา 9 หมู่บ้าน ต.ขุนกระทิง 3 หมู่บ้าน ต.วังใหม่ 5 หมู่บ้าน ต.วังไผ่ 4 หมู่บ้าน ต.ถ้ำสิงห์ 1 หมู่บ้าน ต.ท่ายาง 1 หมู่บ้าน ต.บางลึก ต.หาดพันไกร 2หมู่บ้าน ต.หาดทรายรี 1 หมู่บ้าน ต.นาชะอัง 2 หมู่บ้าน ต.วิสัยเหนือ 1 หมู่บ้าน ต.บางหมาก 2 หมู่บ้าน และ ต.ตากแดด 9 หมู่บ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ ม.8 ต.ตากแดด น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วประมาณ 10 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรน้ำกำลังเริ่มเข้าท่วมเป็นวงกว้างเกือบเต็มพื้นที่แล้ว
ต่อมา เวลา 11.00 น. วันนี้ (6 ธันวาคม 2560) นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว เปิดเผยว่า อำเภอปะทิวมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมรวม 7 ตำบล 46 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ชุมโค 11 หมู่บ้าน ทะเลทรัพย์ 4 หมู่บ้าน ต.บางสน 6 หมู่บ้าน ต.สะพลี 2 หมู่บ้าน ต.ดอนยาง 16 หมู่บ้าน ต.เขาไชยราช 5 หมู่บ้าน และ ต.ปากคลอง 2 หมู่บ้าน แต่ยังมีพื้นที่ที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต 1 หมู่บ้าน คือ บ้านดอนทราย ม.2 ต.ชุมโค ประมาณ 130 ครัวเรือน 300 คน ซึ่งในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของและอพยพชาวบ้านบางส่วนไปยังที่ปลอดภัย และอำเภอปะทิวได้บูรณาการการทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลชุมโค และกำลังทหารจาก ร.25 พัน 1 ปรุงอาหารเพื่อเลี้ยงผู้ประสบภัย บ้านดอนทราย (บ้านพัฒนา) ม.2 ต.ชุมโค 130 ครัวเรือน
“มีเส้นทางสำคัญสายปะทิว-สนามบิน-สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร ที่ยังคงมีน้ำท่วมในระดับสูง รถเล็กไม่สมควรผ่าน จึงจัดเจ้าหน้าที่แนะนำผู้ที่ต้องการผ่านให้เปลี่ยนใช้ทางเลี่ยง คือ เส้นทางสายดอนตะเคียน-บ่ออิฐ-สนามบิน-สจล.เป็นการชั่วคราว และตั้งแต่ประมาณเวลา 11.00 น. เป็นต้นมา น้ำทะเลหนุนสูง น้ำในพื้นที่วิกฤตยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.6 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก สถานการณ์คงคลี่คลายในเร็วๆ นี้” นายธนนท์ กล่าว
ส่วนที่จังหวัดพัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ มีน้ำจากคลองชลประทานนาท่อมที่ไหลหลากลงมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด กำลังไหลผ่านคันคลองชลประทานที่ขาดในพื้นที่ ต.โคกชะงาย และไหลหลากท่วมพื้นที่ลุ่มด้านล่างของ ต.เขาเจียก ต.ปรางหมู่ อำเภอเมือง และมวลน้ำเริ่มไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองชั้นนอกแล้ว โดยในพื้นที่ชั้นในทางเทศบาลเมืองพัทลุง กำลังเร่งสูบน้ำออกจำนวน 9 จุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ามวลน้ำดังกล่าว ทางเทศบาลยังรับมือได้ในขณะนี้ แต่หากน้ำลงมาเยอะเกินไปก็ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ในขณะพื้นที่ที่ถูกตัดขาดตามเกาะต่างๆอย่างพื้นที่ตำบลเกาะหมากใน อ.ปากพะยูน ทางสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ได้นำรถขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ จำนวน 2 คัน เพื่อไว้คอยอำนวยความสะดวกกับชาวบ้านในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านและเดินทางไปชื้อเสบียงในตัวอำเภอปากพะยูนที่มีระยะทางไกลกว่า 25 กิโลเมตรแล้วเช่นกัน และราว 14.00 น. ในพื้นที่ได้มีฝนตกลงมาโปรยๆอีกครั้ง
ปิดท้ายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้หลังจากเกิดฝนตกติดต่อกันส่งผลให้ภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหว ประกอบกับระดับน้ำสะสมที่ฝายกั้นน้ำวัดภูเขาเหล็ก ทำให้มีน้ำไหลบ่าทะลักซัดทำลายบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยที่บริเวณราบเชิงเขา พื้นที่หมู่ 7 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับความเสียหายกว่า 15 ครัวเรือน ชาวบ้านกว่า 100 คนได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามโชคดีที่ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่มีการอพยพออกไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้วตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากได้รับการแจ้งประกาศเตือน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ ปภ.สาขานบพิตำ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติอำเภอนบพิตำ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ นบพิตำ เข้าตรวจสอบความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม