สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานีในช่วงบ่ายของวันนี้(วันที่ 29 พ.ย. 60 ) สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำเหนือจากจังหวัดยะลา ยังคงไหลบ่าลงในแม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสภาพอากาศยังคงมีฝนตกหนัก ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ในหลายอำเภอยังมีน้ำท่วมสูงจนถึงขั้นวิกฤติ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ ม.2 บ.โต๊ะกาลี ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากมีระดับน้ำสูง 1 เมตร และบางแห่งที่เป็นที่ลุ่ม น้ำสูงกว่า 2 เมตร ทำให้บ้านเรือนราษฎรจำนวนกกว่า 30 หลัง ถนนทางเข้าออกจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้าน ต้องอยู่แต่ภายในบ้านเท่านั้น รอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยล่าสุดทาง นายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะรัง พร้อมด้วย พ.อ.ภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ได้เดินลุยน้ำ นำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง ที่ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น และเพื่อเป็นเสบียงไว้สำหรับรับประทาน ในช่วงที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้
นอกจากนี้ กระแสน้ำที่แรงยังได้กัดเซาะคอสะพานที่ ม.4 บ.สุไหงบารู ต.คลองใหม่ จนทำให้ดินทรุดเป็นหลุมกว้าง 3 เมตรลึก 3 เมตร ทำให้รถไม่สามารถผ่านไปมาได้เพราะจะทำให้เกิดอันตราย เจ้าน้าที่จึงได้ปิดเส้นไว้ชั่วคราว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดปัตตานี ได้ระดมกำลังสร้างสะพานแบริ่งชั่วคราว ให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมา โดยคาดว่าสะพานแบริ่งจะแล้วเสร็จในวันนี้
สำหรับในพื้นที่ อ.ยะรัง ถูกน้ำเข้าท่วมทั้ง 12 ตำบลของ อ.ยะรัง โดยเฉพาะในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ ต.เขาตูม ต.คลองใหม่ ต.เมาะมาวี ต.ปิตุมุดี ต.ยะรัง และ ต.ประจัน ได้รับความเสียหายหนักสุด เนื่องจากอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี และเป็นพื้นที่รองรับน้ำเหนือจากจังหวัดยะลาโดยตรง อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเขื่อนปัตตานี ซึ่งขณะนี้ ระดับน้ำในเขื่อนเออล้นปริงเวย์กว่า 15 เซนติเมตร ยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ย่ำแย่ลงไปอีก
ในขณะที่ภาพรวมความเสียหายในพื้นที่ อ.ยะรังในขณะนี้ น้ำได้เข้าท่วมในพื้นที่ทั้งหมด ทั้ง 12 ตำบล หมู่บ้านได้รับผลกระทบ 72 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 2,170 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,575 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
+ อ่านเพิ่มเติม