คนร้ายยิง 'น้องปอนด์' จนพิการเข้ามอบตัว หลังหลบหนี 2 ปี อ้างป้องกันตัว
logo ข่าวอัพเดท

คนร้ายยิง 'น้องปอนด์' จนพิการเข้ามอบตัว หลังหลบหนี 2 ปี อ้างป้องกันตัว

ข่าวอัพเดท : จากกรณีที่แม่ของน้องปอนด์วัย 16 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้กับลูกชาย ซึ่งเป็นนักกรีฑาประจำโรงเรียน ท น้องปอนด์,คนร้าย,ยิง,มอบตัว,เด็กนาย

24,766 ครั้ง
|
28 พ.ย. 2560
จากกรณีที่แม่ของน้องปอนด์วัย 16 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้กับลูกชาย ซึ่งเป็นนักกรีฑาประจำโรงเรียน ที่ถูกยิงจนต้องกลายเป็นคนพิการ แต่วันเวลาผ่านไปกว่า 2 ปี คดียังไม่คืบ ทั้งที่รู้ว่ามือปืนเป็นใคร  ล่าสุดหลังเป็นข่าว มือปืนในคดีนี้ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว 
 
โดยเช้าวันที่ 28 พ.ย. นายกิตติพงศ์ สังข์แก้ว อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวกับ ร้อยตำรวจเอกสุริยา คงอินทร์ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายกิตติพงศ์ ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนยิงนายชานนท์ มณีรัตน์ หรือน้องปังปอนด์ จริง โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากในวันเกิดเหตุน้องปังปอน มีมีดและอยู่ในอาการมึนเมา จะเข้าไปทำร้ายตนเองก่อน จึงยิงสวนออกไป ส่วนอาวุธปืน หลังก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งในคลอง หน้าหอสมุดอำเภอทุ่งสงหลังสอบปากคำแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งฟ้องศาล ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธพร้อมเครื่องกระสุน และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมคัดค้านการประกันตัว  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว 
 
สำหรับจุดเปลี่ยนของชีวิตน้องปังปอนด์ เกิดขึ้นในคืนวันหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2558 น้องปังปอนด์ออกไปเอาโทรศัพท์ที่บ้านเพื่อน และกลุ่มมือปืน ขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน 6 คน ทำทีเป็นขอบุหรี่ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ กระสุนเข้าที่ชายโครงขวา เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้น้องปังปอนด์ กลายเป็นคนพิการ ซึ่งน้องปังปอนด์ ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับอีกฝ่ายมาก่อน  หลังเกิดเหตุผ่านไปกว่า 2 ปี คนร้ายก็ยังลอยนวล แม่ก็เลยร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ตำรวจจับกุมคนก่อเหตุมาลงโทษ เพราะสงสารลูกที่ต้องอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมาน เพราะเดินไม่ได้ 
 
ขณะที่  นางสาวชุติมันต์ ชื่นเรณู แม่ของน้องปังปอนด์ เผยว่า ถ้าเป็นไปได้อยากเจอหน้าคนร้ายสักครั้ง อยากถามเขาว่าเปลี่ยนกันได้มั้ยให้คนร้ายตกอยู่ในสภาพเหมือนกับลูกชายของคน แล้วให้ลูกชายกลับมามีชีวิตปกติทั้งที่รู้ว่ามันไม่สามารถเป็นอย่างนั้นได้ ทุกวันนี้เหมือนลูกหมดอนาคต สิ่งที่เขาฝันสิ่งที่เขาอยากจะทำงานรับราชการไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม อะไรก็มาทดแทนความรู้สึกของลูกแม่ไม่ได้ การกระทำของเขาแค่เสี่ยววินาทีเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตคนอื่นได้ถึงขนาดนี้"อะไรก็มาเยี่ยวยาสภาพจิตใจของลูกไม่ได้" 
 
นอกจากนี้อยากให้ขยายผลจับกุมกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน ของคนร้ายที่ก่อเหตุด้วยกันมาสอบปากคำ ทั้งที่รู้ว่าเขามีปืนหรือจะก่อเหตุทำไมไม่คิดห้าม อย่างไรก็ตามอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก
 
ขณะที่น้องปังปอนด์ ตอนนี้เครียด ไข้ขึ้น มีอาการปวดหลัง ก้นเริ่มเป็นแผลกดทับ เพราะเมื่อวานนี้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นที่กองบังคับการปราบปราม และไปออกรายการโทรทัศน์ทั้งวัน ทำให้ต้องนั่งรถวีลแชร์เป็นเวลานาน น้องบอกว่าตอนนี้ไม่รู้สึกกังวลหรือกลัวอะไรอีกแล้ว ต่อให้จับคนร้ายได้สภาพร่างกายของตนก็พิการตลอดชีวิต เป็นแบบนี้ไม่รู้จะกลัวอะไรอีก พยายามบอกแม่ตลอด"อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ยังไงผมก็ยังเป็นแบบนี้"แต่ก่อนน้องปังปอนเป็นคนใจกว้าง ตอนนี้ไม่ยอมรับสภาพของตนเองและน้อยใจชีวิตที่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ 
 
 
 
รายการดีเบต แม่ร้องสื่อ ลูกถูกยิง คดีไม่คืบ อ้างเป็น"เด็กนาย"
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง