อาจารย์ ม.ดัง ร้องผู้ว่าฯขอนแก่น หลังถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ชี้ไม่ได้รับเงินชดเชย
logo ข่าวอัพเดท

อาจารย์ ม.ดัง ร้องผู้ว่าฯขอนแก่น หลังถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ชี้ไม่ได้รับเงินชดเชย

46,820 ครั้ง
|
06 พ.ย. 2560
อาจารย์ ม.ดังขอนแก่น ร้องผู้ว่าฯ-ศูนย์ดำรงธรรม ถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม สั่งเช้าให้ออกบ่าย ล็อคกุญแจห้องพักอาจารย์ โดยที่ไม่ได้รับเงินชดเชย ทั้งที่เพียงเหลือ 3 สัปดาห์ใกล้ถึงวันสอบ ปลายภาค หวั่นนักศึกษาถูกลอยแพ
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น น.ส.ฐปนรรถ์ พนมศิลป์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย น.ส.พราวภวินท์ พักตร์ธนาปกรณ์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และนายสุริยัน แสงแก้ว อาจารย์ประจำหลักสูตรนิเทศศาสตร์ ได้ยื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น เพื่อขอความเป็นธรรมหลังถูก อธิการบดีฯ มีคำสั่งเลิกจ้าง โดยมีผลทันที และไม่ได้รับเงินชดเชยหรือการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นได้ทำการรับเรื่องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะทั้งหมดจะเดินทางไปยังห้องปฎิบัติราชการ นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแก่น ที่ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจาก ผวจ.ขอนแก่น ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้เลขานุการรับเรื่องดังกล่าวไปเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง
 
 
น.ส.ฐปนรรถ์ พนมศิลป์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา กล่าวว่า การเข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับคณาจารย์ที่ถูกมหาวิทยาลัยเลิกจ้างครั้งนี้ เพื่อต้องการให้มหาวิทยาลัยฯ ออกมาชี้แจงในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคณาจารย์และครูผู้สอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่ทุกคนนั้นล้วนต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
 
โดยที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ทำการเลิกจ้างอาจารย์ผู้สอนไปแล้ว 15 คน และล่าสุดได้มีการเลิกจ้างอาจารย์ระดับ ดร. อีก 1 ราย จนกระทั่งมาถึงพวกตน ซึ่งมีลางบอกเหตุมาแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดทำการเรียนการสอน ในภาคเรียนที่ 1/2560 ซึ่งเดิมในระบบการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษามีการระบุชื่ออาจารย์ผู้สอน และรายวิชาที่เปิดทำการเรียนการสอน โดยตนเองและอาจารย์อีก 2 ท่านที่เข้าร้องเรียนในวันนี้มีรายชื่อทำการสอนอยู่ จากนั้นผ่านไป 1 สัปดาห์ มีการสั่งยกเลิกการสอนทันที และปรับย้ายให้ไปช่วยงานในส่วนงานพัฒนานักศึกษาและอบรมนักศึกษา โดยมีคำสั่งปรับย้ายลงวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ เป็นคนลงนาม แต่ด้วยความเป็นห่วงนักศึกษา ที่อีก 3 สัปดาห์จะสอบปลายภาค จึงขอทำหน้าที่อาจารย์ต่อไปและช่วยงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายควบคู่ไปด้วย
 
 
อีกไม่นานพวกเราทั้ง 3 ก็ได้ถูกเรียกตัวเข้าไปพบรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร โดยเมื่อเข้าพบได้ถูกกล่าวหาว่ามีการร้องเรียนเกิดขึ้นจากนักศึกษาว่าถูกลวนลามและถูกร้องเรียนเรื่องการทำการเรียนการสอน ซึ่งทุกคนขอดูเอกสารและหนังสือร้องเรียนตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ เพียงแต่บอกว่าให้เขียนใบลาออกจะดีกว่า ซึ่งทุกคนก็ไม่ยินยอมเพราะไม่มีมูลความผิด หรือเหตุการณ์ใดที่จะทำให้มหาวิทยาลัยฯ หรือสาขาวิชาที่สอนนั้นเสื่อมเสีย
 
จนกระทั่งวันที่ 31 ต.ค.มีหนังสือแจ้งถึงพวกเราทั้ง 3 ลงนามโดยอธิการบดีฯ ในการบอกเลิกสัญญาจ้าง โดยมีผลทันที ซึ่งไม่มีการแจ้งรายละเอียดว่าจะชดเชยอย่างไร หรือให้เวลาพวกเรานั้นได้ตั้งตัวในการที่จะหางานใหม่ หรืออุทธรณ์ คำสั่ง หรือกระทำการใดๆที่เป็นไปตามกฎหมาย มิหนำซ้ำ ในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาหลังทำการสอนเสร็จได้กลับไปที่ห้องพักครู ก็ถูกเจ้าหน้าที่ล็อคห้องพักครู อีกด้วย
 
น.ส.ฐปนรรถ์ กล่าวต่ออีกว่า ได้ทำการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัย ไม่มีการมาชี้แจงหรือให้คำตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ การที่ทั้ง 3 คน ตัดสินใจเป็นตัวแทนคณาจารย์ที่ถูกบอกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะกับการไม่ทำตามกฎหมายคือการให้เวลา 15 วันในการตั้งตัวหรือหางานใหม่ แต่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีคำสั่งเลิกจ้างและมีผลทันที อาจารย์หลายท่านไม่สามารถตั้งตัวได้ บางคนมีภาระทุนต้องใช้ โดยเฉพาะทุนจากทางมหาวิทยาลัย กลับถูกเลิกจ้าง แต่บางคนช่องทางก็พอที่จะพอรับได้ ซึ่งโดยส่วนตัวเป็นอาจารย์ที่นี่มานานถึง 18 ปี มหาวิทยาลัยฯน่าจะพูดคุยกันดีๆ เพราะจากการตรวจสอบการเลิกจ้างอาจารย์ทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมาบางคนไม่มีความผิด บางคนเหมือนกับถูกกลั่นแกล้ง บางคนมีภาระจำเป็น บางคนเป็นอาจารย์ตามสัดส่วนของหลักสูตร ที่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. กำหนด และบางคนยังคงอยู่ในกระบวนการการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะนักศึกษาในรายวิชาที่ต้องสอน ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงการสอบปลายภาคการศึกษาที่ 1/2560 ในอีก 3 สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้อีกด้วย
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง