กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 4 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560)"
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ เข้าปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ 1–3 พ.ย. 60 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นไว้ด้วย
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้
วันที่ 1 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
วันที่ 2-3 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น.
ลักษณะอากาศทั่วไปพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เว้นแต่ภาคเหนือจะมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกไว้ด้วย ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยาบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง
อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีลมแรง
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมแรง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.