เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 30 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ผู้ต้องหาคดีนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้กองเหน่ง ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถึงเวลา 13.30 น.กว่า 4 ชั่วโมง โดยมีนายทหารพระธรรมนูญมาร่วมรับทราบการแจ้งข้อหาและการสอบปากคำผู้กองเหน่งในครั้งนี้ ขณะที่บรรดาญาติพี่น้อง นำโดย น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน พี่สาวของ ผอ.อ้อย ได้มารออยู่ที่บริเวณหน้าสถานที่สอบปากคำ ซึ่งหลังจากที่สอบปากคำและแจ้งขอกล่าวหาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้กองเหน่งลงมาจากห้องสอบสวน เพื่อที่จะนำตัวไปฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ปรากฏว่าขณะที่นำตัวผู้กองเหน่งลงมาจะขึ้นรถ ปรากฏว่าได้มีบรรดาญาติพี่น้องของ ผอ.อ้อย พยายามพากันที่จะเข้าไปหาผู้กองเหน่งที่ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพื่อที่จะดูหน้าผู้กองเหน่ง ซึ่งญาติพี่น้องเชื่อว่าเป็นผู้ที่ฆ่า ผอ.อ้อย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบพากันกันตัวผู้กองเหน่งไปขึ้นรถอย่างชุลมุน ขณะที่ น.ส.หมายปอง ตะโกนดังลั่น ฆ่า ผอ.อ้อยทำไม
พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในวันนี้ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ ร.อ.ศุภชัย ภาโส จำนวน 2 ข้อหา คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนแล้ว ซึ่งรวมขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ ร.อ.ศุภชัย ไปแล้ว จำนวน 10 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว ร.อ.ศุภชัย เนื่องจากเกรงว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญและมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน โดยได้นำตัว ร.อ.ศุภชัย ไปฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ต่อไป ซึ่งคดีนี้ ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่ออัยการและศาลได้ในเร็ว ๆ นี้
ทางด้าน น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินคดีในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ตนพยายามที่จะร้องตะโกนถามผู้กองเหน่งว่า ฆ่าน้องอ้อยทำไม เพราะเท่าที่รู้มา อ้อยให้ความช่วยเหลือผู้กองเหน่งในการให้หยิบยืมเงินทองมาโดยตลอด และขณะนี้พ่อแม่ของ ผอ.อ้อย ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาลจังหวัดกันทรลักษ์แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ว่าจะให้ประกันตัวผู้กองเหน่งหรือไม่ อย่างไร