5 คนร้าย บุกปล้นนักธุรกิจเครื่องประดับ กลางดึกย่านรัชดา กวาดเงิน 60 ล. หลบหนี ตร.ตั้งข้อสันนิษฐานเป็นคนใน เร่งติดตามตัว
logo ข่าวอัพเดท

5 คนร้าย บุกปล้นนักธุรกิจเครื่องประดับ กลางดึกย่านรัชดา กวาดเงิน 60 ล. หลบหนี ตร.ตั้งข้อสันนิษฐานเป็นคนใน เร่งติดตามตัว

5,345 ครั้ง
|
03 ต.ค. 2560
 
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ที่เกี่ยวข้อง หลังจากช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายร่วมกันปล้นเงินสดสกุลเงินเยน กว่า 196 ล้านเยน หรือกว่า 60 ล้านบาท จาก นายภัทริศ แต้รัตนชัย อายุ 34 ปี นักธุรกิจซื้อขายทองคำแท่ง เครื่องประดับและเครื่องเพชร ส่งขายในประเทศญี่ปุ่น จากคอนโดแห่งหนึ่งในซอยรัชดา 30
 
ช่วงเกิดเหตุคือช่วงที่ ผู้เสียหายได้ให้ นายณรงค์ชัย หรือจั๊ว สวัสดิผล นำเงินสดสกุลเงินญี่ปุ่นจำนวน 196 ล้านเยน ใส่กระเป๋าเดินทางและบางส่วนได้นำใส่กระเป๋าสะพายหลัง เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยการผ่านศุลกากร ตามขั้นตอนปกติ และเมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีนายจิรภัสส์ หรือเนย พิทักษ์กิจวัฒนา และ นายเกียรติพงษ์ หรืออุ้ย พึ่งยิ้ม เดินทางมารับกระเป๋าเดินทางที่ใส่เงินสดจำนวนดังกล่าวเพื่อเดินทางมาส่งมอบให้กับ ผู้เสียหาย ที่รออยู่ที่คอนโดเกิดเหตุ โดยนายจั๊ว ได้แยกกลับไปพร้อมแฟนสาว และเมื่อนายอุ้ยและนายเนย เดินทางมาถึง ลานจอดรถบริเวณชั้น 5 ของคอนโด ก็พบคนร้ายประมาณ 5-6 คน สวมใส่ผ้าคลุมไหมพรมสีดำ ดักเข้าปล้นโดยในหนึ่งจำนวนของคนร้ายมีการใช้อาวุธปืนออกมาข่มขู่และทำร้ายร่างกายพร้อมจับทั้งคู่มัดมือและให้นอนคว่ำหน้า ก่อนจะชิงเงินสดทั้งหมดหนีไปโดยใช้รถยนต์กะบะ ฟอร์ดสีส้ม เข้ามาก่อเหตุ
 
 
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช  ระบุว่า จากการสอบส่วนพบว่าผู้เสียหายได้นำเงินสดประเทศญี่ปุ่นเข้ามาตามขั้นตอนถูกต้อง โดยเป็นธนบัตรใบละ หมื่นเยน รวมมูลค่า 196 ล้านเยน และผู้เสียหายทำธุรกิจเครื่องประดับและมีการทำธุรกรรมนำเงินสดข้ามประเทศลักษณะนี้มาแล้ว หลายครั้งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา 
 
 
จากการสอบถามไม่พบว่ามีความขัดแย้งทางธุรกิจกับใคร และการขนย้ายเงินสดจำนวนมากขนาดนี้ จะรู้กันเพียงคนที่ทำหน้าที่และผู้เสียหายที่เป็นหัวหน้า ไม่มีคนอื่นรู้ จึงเป็นข้อสังเกตุว่าต้องเป็นคนในที่ร่วมก่อเหตุ รวมถึงลานจอดรถของคอนโดดังกล่าว ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าออก ดังนั้นคนร้ายที่เข้าไปดักรอ ต้องมีคีย์การ์ดเบื้องต้นขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวน และรวบรวมหลักฐานก่อน จึงจะสามารถระบุในข้อเท็จจริงได้ แต่ขณะนี้ได้มีการประสานให้สถานที่รับแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศสังเกตุการนำเงินสดสกุลเงินญี่ปุ่นเข้ามาแลกเพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่ 
 
ภาพจาก ข่าวสด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง