ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุหลักฐานมัดคนร้ายชาวโปแลนด์ระเบิดเอทีเอ็ม ชิงเงินกว่า 3 แสนบาท ขณะที่ค้นห้องพักพบอุปกรณ์เตรียมก่อเหตุอีก 2-3 จุด เพบลูกบอลพร้อมสายยาง จำนวน 1 ชุด กระเป๋าสีดำ หมวกกันน็อคสีน้ำเงิน ซึ่งมีร่องรอยการขูดลบเอกลักษณ์บนหมวก เสื้อผ้า รองเท้า หน้ากากปีศาส และเงินสดจำนวน 3,100 บาท เป็นของกลาง
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรีนันทชาต ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 แถลงจับกุมนายกราคจานพาเวล สเตนิสซิวสกี อายุ 38 ปี ชาวโปแลนด์ คนร้ายวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เทสโก้โลตัส ย่านกรุงเทพกรีฑา และชิงเงินสดกว่า 3 แสนบาท เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งชุดสืบสวนยังพบของกลางอีกหลายชิ้น ในอาพาร์ทเม้นต์ ย่านรามคำแหงอีก 2-3 ชุด ซึ่งตรงกับข้อมูลที่สืบทราบว่า คนร้ายเตรียมลงมือก่อเหตุอีก 3-4 จุด ก่อนหลบหนีกลับประเทศ โดยของกลางทั้งหมด ซื้อมาจากประเทศมาเลเซีย พร้อมมองว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะ สามารถศึกษาจากโซเชียลมีเดียได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติคนร้าย ว่าเคยก่อเหตุ หรือเคยร่วมกับขบวนการใดหรือไม่ เพราะ ในประเทศไทย นับเป็นครั้งแรกที่ใช้วิธีนี้ในการก่อเหตุ ซึ่งกำลังจะขยายผลว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่
พลตำรวจโทศานิตย์ ยืนยันว่า คดีนี้คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่มีหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดี
ขณะที่พลตำรวจตรีนันทชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรณ์ปิด พบว่าคนร้ายหายไป บริเวณท้ายซอยกรุงเทพกรีฑา 15/1 พบเป็นพื้นที่รกร้าง จึงเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบสระน้ำพบเศษเทปสีดำจำนวน 2 ชิ้น จึงให้นักประดาน้ำดำลงไปในบ่อน้ำดังกล่าวพบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ภายในมีของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ ขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุด ลงพื้นตามร้านสะดวกซื้อจนพบคนร้ายสวมเสื้อผ้า เหมือนกับของกลางที่พบ จึงตรวจสอบจนทรทบว่า คนร้ายอาศัยอยู่กับภรรยาชาวกัมพูชาในห้องพักย่านรามคำแหง จึงเข้าจรวจค้น และจับกุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม