ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังคงมีมวลชนมารอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่จำนวนต่างกับในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ที่มีการนัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรกอย่างชัดเจน ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยก็เข้มข้นลดลงกว่าวันดังกล่าว และไม่ปรากฎว่ามีแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางมาที่ศาล
ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษามีกำหนดอ่านคำพิพากษาในเวลา 9.00 น. และอัยการในฐานะโจทก์รายงานตัวเข้ารับฟังคำพิพากษาแล้ว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า การขาด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทบต่อพรรคแน่นอน เพราะต้องเสียบุคลากรที่มีคุณค่าไป แต่ไม่ถึงขนาดที่พรรคจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เหมือนตอนขาดนายทักษิณ ชินวัตร พรรคก็ยังเดินหน้าต่อ เพราะพรรคเพื่อไทยประกอบด้วยอุดมการณ์และประชาชนที่ให้การสนับสนุน ตระกูลชินวัตรเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น
ส่วนอนาคตทางการเมืองของคนตระกูลชินวัตรจะเป็นอย่างไร จะกลับมานำพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบแทนได้ และพรรคไม่เคยกำหนดว่าผู้นำต้องมีนามสกุลชินวัตร หากมีอุดมการณ์เดียวกัน ได้รับการยอมรับจากสมาชิกและทำให้พรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ จะนามสกุลชินวัตรหรือไม่ก็ได้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาชิกพรรคและความเหมาะสมของสถานการณ์ขณะนั้น
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ทันทีที่เปิดให้ทำกิจกรรมทางการเมืองก็จะเรียกประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พร้อมกับปรับโครงสร้างพรรคเพื่อปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถ้าการเลือกตั้งในอนาคต ประชาชนจะเลือกให้เป็นฝ่ายค้าน พรรคก็ต้องยืนให้ได้ และหากเกิดอุบัติเหตุให้ถูกยุบพรรคก็ตั้งพรรคขึ้นใหม่ภายใต้อุดมการณ์คนกลุ่มเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม