ตร.สืบสวน เร่งขยายกล้องวงจรปิด ล่าเส้นทางหนีคนร้ายมือระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส กรุงเทพกรีฑา 35 เช้าวานนี้ ขณะที่ พิสูจน์หลักฐานตำรวจพบอุปกรณ์ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการจุดระเบิดพร้อมส่งคราบเขมาดินปืนที่พบในจุดเกิดเหตุตรวจคาดจะรู้ผลสารประกอบระเบิดในช่วงเย็นนี้
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดไม่ทราบชนิด ระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขากรุงเทพกรีฑา ซอย 35 พังเสียหาย และชิงเงินสดภายในตู้เอทีเอ็มไปมากกว่า 3 แสนบาท ในช่วงเช้ามืดวานนี้
พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขณะนี้ที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางรอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินทางมาก่อนก่อเหตุ และหลบหนีหลังก่อเหตุ เพื่อใช้ในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายสืบสวนพอจะทราบเส้นทางมาบ้างแล้ว หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งในวันนี้ฝ่ายสืบสวน ที่ร่วมทำคดีนี้ จะขยายวงการค้นหาเพิ่มเติม ซึ่งต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นเส้นทางไหน ในขณะที่ในส่วนกล้องวงจรปิดภายในตู้เอทีเอ็มขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากอุปกรณ์บันทึกข้อมูลได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างให้ผู้เชียวชาญดำเนินการในการตรวจสอบ
พลตำรวจตรีนันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ระบุถึงความคืบหน้าว่าได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่า เบื้องต้นพบปืนยิงแก๊ส ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้ในการจุดชนวน เนื่องจากการสอบปากคำร้านค้า ที่อยู่รอบจุดเกิดเหตุไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเจ้าของ และไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านพลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการเก็บชิ้นส่วนหลักฐานในจุดเกิดเหตุเบื้องต้นได้นำคราบเขมาดินปืน ที่พบอยู่เล็กน้อยเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบหาสารประกอบระเบิดคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะทราบผลว่า สารประกอบระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นชนิดใด
ขณะนี้มีรายงานว่าฝ่ายสืบสวนพบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี บนถนนกรุงเทพกรีฑา แล้วผ่านซอยกรุงเทพกรีฑา 23 ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นเห็นรถต้องสงสัยสีทึบ ซึ่งเชื่อว่าเป็นคันเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุผ่านเส้นทางนี้ โดยตำรวจยังคงสืบสวนแกะรอยคนร้ายต่อไปเพราะยังไม่พบจุดสิ้นสุดในเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และ ยังไม่พบว่ามีรถคันอื่นหรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบปากคำช่วงเย็นวานนี้ ได้รับการรายงานจากฝ่ายสืบสวนว่าเป็นเพียงเจ้าของบัตรเอทีเอ็ม ที่พบว่าคาอยู่ในตู้ จึงมีการเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ฝ่ายสืบสวนจะมีการประสานไปยังบริษัทเจ้าของตู้เอทีเอ็ม ผ่านมาทางธนาคารกรุงเทพ เพื่อขอให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบฮาร์ทดิช ที่ใช้ในการบันทึกภาพวงจรปิดของตู้เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถกู้ภาพได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม