กรณีมีการนำเสนอข่าวผ่านเว็บไซต์การศึกษาหลายแห่ง ว่าโรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) ที่ตั้งอยู่ใน ต.ด่านช้าง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา รับสมัครลูกจ้างชั่วคราวตำแหน่ง ครูผู้สอน วุฒิปริญญาตรี โดยให้อัตราเงินเดือนที่ 2,500 บาท (สองพันห้าร้อยบาท) จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์ว่าอัตราเงินเดือนต่ำเกินไปนั้น
ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์ได้โทรไปสอบถามกับนายทิวากร มีระหันนอก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) ถึงกรณีดังกล่าว นายทิวากรเปิดใจว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ทางโรงเรียนประสบปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่ำ และนักเรียนมีปัญหาอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่โรงเรียนขาดแคลนครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทยเป็นการเฉพาะ จึงต้องการรับครูที่จบเอกภาษาไทยเพื่อมาแก้ปัญหาดังกล่าว และหากต้องการได้ครูซึ่งเป็นข้าราชการประจำนั้น ตามระบบราชการก็จำเป็นจะต้องรอขั้นตอนและกระบวนการซึ่งต้องใช้เวลา ระหว่างนี้จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะด้วยการจ้างบุคคลภายนอกเป็นลูกจ้างชั่วคราวไปพลางก่อน จึงจะเห็นว่าในประกาศระบุว่าเป็นการจ้างชั่วคราวเพียง 1 ปีเท่านั้น
"ไม่อยากให้มองว่าเป็นปัญหาที่ใคร เพราะระบบราชการก็มีขั้นตอนและกระบวนการซึ่งต้องใช้เวลา และก็ไม่ใช่โรงเรียนเราเพียงที่เดียวที่เจอปัญหานี้ โรงเรียนอื่นๆก็ขาดแคลนครูเหมือนกัน ฉะนั้นเราก็พยายามแก้ปัญหาเพื่อดูแลลูกหลานของเราให้ดีที่สุด" นายทิวากรระบุ
ส่วนกรณีเงินเดือน 2,500 บาทถูกมองว่าต่ำเกินไปนั้น นายทิวากรเผยว่าเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด แต่เป็นเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา เช่น ชาวบ้านในพื้นที่ ที่เมื่อมีงานบุญต่างๆก็จะบริจาคให้โรงเรียนไว้ใช้ ซึ่งโรงเรียนก็มีกำลังเพียงเท่านี้ ก็จ้างได้เพียงเท่านี้ ส่วนจะมีคนมาสมัครหรือไม่เป็นสิทธิของผู้ที่สนใจ หากไม่มีผู้มาสมัคร ครูที่มีอยู่ก็ต้องช่วยกันสอนต่อไป และเมื่อถามว่าลูกจ้างชั่วคราวกลุ่มนี้มีสิทธิได้รับสวัสดิการใดๆหรือไม่ นายทิวากรตอบว่าไม่มี สวัสดิการก็คงเป็นการช่วยเหลือกันเองภายในโรงเรียนเท่านั้น
"โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดกลาง เปิดสอนชั้นป.1-ม.3 มีนักเรียน 160 คน ก็คิดเป็นชั้นละประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งสัดส่วนอัตรากำลังข้าราชการครู เขาบอกว่าครู 1 คน จะต้องสอนนักเรียน 25 คน แต่สมมติมีนักเรียนชั้นละ 17-18 คน ก็จะมีครูได้จริงๆคือ 0.7-0.8 คน ซึ่งอย่างชั้นประถมมี 6 ชั้น แต่มีครู 4 คน ก็ต้องช่วยกันดู ครูหนึ่งคนก็อาจจะต้องสอนหลายระดับชั้น เปลี่ยนบทบาทเป็นครูประจำวิชาแทน" นายทิวากรกล่าวเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 (สพป.นครราชสีมาเขต 6) ระบุว่าโรงเรียนสามารถจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัว ที่รัฐบาลจ่ายเป็นงบประมาณให้แก่นักเรียนแต่ละคน มาเป็นค่าจ้างครูได้ นายทิวากรระบุว่าทำได้ แต่ถ้าทำแล้วก็อาจจะขาดแคลนงบรายหัวดังกล่าวเพื่อไปพัฒนาโรงเรียนด้านอื่นๆ
และเมื่อถามว่าสาเหตุของการขาดแคลนครูคืออะไร นายทิวากรตอบว่าเป็นเพราะประชากรวัยเรียนน้อยลง ซึ่งจำนวนข้าราชการครูที่มีได้ก็คิดจากจำนวนประชากรวัยเรียน ทำให้จำนวนครูที่มีต้องน้อยลงไปด้วย แต่การที่ครูน้อยลงไม่ได้หมายถึงโรงเรียนจะยุบชั้นเรียนบางชั้นได้ ดังนั้น ครูที่มีอยู่ก็ต้องช่วยกันสอนหลายๆชั้นแทน หรือที่ผ่านมาก็จะมีจิตอาสาที่มาช่วยสอน ซึ่งก็จะช่วยได้ แต่ก็จะมีปัญหาบ้างที่จิตอาสาอาจจะมาสอนได้เป็นช่วงๆ ไม่ได้สอนระยะยาว ทำให้การวางแผนงานอาจจะไม่สะดวกบ้าง
"แต่ถามว่าถ้ามีคนอยากมาเป็นจิตอาสาสอนหนังสือยินดีหรือไม่ บอกเลยว่ายินดี สามารถติดต่อมาที่ผมได้เลย ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษที่เราต้องการ ซึ่งก็ยังดีกว่าไม่มีเลย" ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดต่อไปได้ที่โทรศัพท์ 089-849-2880
เมื่อถามว่าโรงเรียนแก้ปัญหาเรื่องการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้อย่างไรอีกบ้าง นายทิวากรตอบว่าทุกวันนี้ผู้อำนวยการและครูทุกคนใช้เวลาช่วงพักเที่ยงสอนเสริมให้กับนักเรียนที่มีปัญหาดังกล่าว และชุมชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทุกภาคเรียนจะมีการประชุมผู้ปกครองก็จะแจ้งให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามถึงกระแสสังคมและผลกระทบที่เกิดกับโรงเรียนจากข่าวดังกล่าว นายทิวากรตอบว่าส่วนใหญ่จะเป็นกระแสสังคมบนสื่อโซเชียล ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ และทางโรงเรียนก็ขอรับไว้นำไปเป็นประสบการณ์ในการทำงานต่อไป และย้ำว่าทางโรงเรียนยินดีน้อมรับทุกคำชี้แนะจากประชาชน และส่วนตัวไม่รู้สึกท้อใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
"ไม่ท้อ ไม่มีอะไร ยังมีกำลังใจเต็มร้อย ครูทุกคนยังตั้งใจทำงาน เพราะเรามีเจตนาที่ดี มีจุดประสงค์ที่ดี ส่วนวิธีการที่ทำ คนอื่นจะเข้าใจมากน้อยก็แล้วแต่บริบทของแต่ละคน ความเข้าใจในสถานการณ์ บางคนอาจจะไม่เข้าเรื่องความขาดแคลนจึงวิจารณ์กันไป แต่คณะครูยังมีกำลังใจเต็มร้อยที่จะดูแลลูกหลานของเรา ส่วนคนในวงการศึกษาก็ได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชาทุกส่วนอย่างดี" นายทิวากรกล่าวปิดท้าย
ผู้สื่อข่าวติดต่อเพิ่มเติมไปยังนายสนอง สุดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 (สพป.นครราชสีมาเขต 6) นายสนองระบุว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ทางโรงเรียนยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว เพราะกระแสสังคมอาจจะมองว่าไม่เหมาะสมที่จะจ้างครูด้วยเงินเดือนเพียงเท่านี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าโดยปกติการจ้างลูกจ้างชั่วคราวในตำแหน่งครูผู้สอนในลักษณะนี้ ควรให้เงินเดือนเท่าไร นายสนองระบุว่า ปกติแล้วจะอยู่ที่ 15,000 บาท แต่บางโรงเรียนเสนอมาน้อยกว่านั้นแต่มีคนที่เต็มใจจะทำก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งในกรณีโรงเรียนบ้านโคกสะอาดก็อาจจะมีคนเต็มใจรับเงินเดือนเท่านี้ก็ได้
ส่วนปัญหาอัตรากำลังครูที่ขาดแคลนนั้น แม้ว่าโรงเรียนโคกสะอาดจะประสบปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่ำ แต่อัตรากำลังก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ โดยอาจจะต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาในด้านอื่นๆร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทางเขตพื้นที่การศึกษาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จะลงไปตรวจสอบว่าขาดครูมากน้อยเพียงใด ซึ่งด้วยระบบการบริหารจัดการใหม่เป็นระบบศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเรื่องอาจจะล่าช้า เพราะต้องมีหลายขั้นตอน ซึ่งโดยสภาพทั่วไปเป็นแบบนี้ แต่ตนก็กำลังลงไปดูรายละเอียดให้อยู่ และแจ้งผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดแล้ว
นายสนองระบุเพิ่มเติมว่า ยังมีการแก้ปัญหาในลักษณะอื่นๆ ที่จะต้องดำเนินการเพื่อช่วยโรงเรียนแห่งนี้ อาทิ การอบรม พัฒนา นิเทศก์การศึกษาของครูเพิ่มเติม ส่วนการเกลี่ยอัตรากำลังนั้นก็กำลังจะกำลังจะเกลี่ยอัตรากำลังที่ได้รับจากครูที่เกษียณอายุไปเพื่อคืนให้กับโรงเรียน ซึ่งมีโรงเรียนที่ขาดแคลนครูมากกว่านี้ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.คศ.) ด้วย