ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวน สั่งสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมในสำนวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ ขณะที่อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 ยืนยันไม่มีการดึงคดีให้ล่าช้า
นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังประชุมว่าที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนสำนวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ ที่มีการพาดพิงถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงาน เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อัยการสำนักการสอบสวน และพนักงานสอบสวน กองคดีการเงินการธนาคาร ไปรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น เส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง
โดยจะเร่งรัดให้เร็วที่สุดเพราะคดีความใกล้จะหมดอายุความในปี 2561 และในชั้นนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเรียกนายพานทองแท้ มาสอบสวนเพิ่มเติม และยืนยันคณะพนักงานสอบสวน ไม่มีการตั้งธงในการสั่งฟ้องคดีใครเป็นพิเศษ เพราะการจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องให้คำตอบกับสังคมได้ และมั่นใจว่า คดีนี้จะไม่มีการดึงสำนวนให้ล่าช้าจนหมดอายุความอย่างแน่นอน
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เมื่อถูกถามถึงคดีนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพียงสั้นๆว่า ให้ไปสอบถามกับพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังไม่ตอบคำถามเมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวการตั้งธงให้ดำเนินคดีกับ นายพานทองแท้
+ อ่านเพิ่มเติม