ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านช้างมิ่งพิทยานุกูล ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พบว่าสถานการณ์น้ำท่วมภายในโรงเรียนเป็นวันที่ 10 แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นน้ำยังท่วมสูงกว่า 50 ซม. ทั่วบริเวณโรงเรียน สาเหตุจากน้ำที่ล้นออกมาจากปากกระโถนเขื่อนน้ำอูน ผ่านคลองชลประทานเอ่อท่วมพื้นที่โดยรอบ โดยมวลน้ำยังไหลออกมาเข้าสู่พื้นที่การเกษตร รวมถึงโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. เป็นต้นมา และต้องขยายเวลาการหยุดแบบไม่มีกำหนด หลังชลประทานแจ้งมาว่าสถานการณ์น้ำท่วมโรงเรียนจะใช้เวลาคลี่คลายเร็วที่สุดก็ 2 สัปดาห์ หรืออย่างช้า 1 เดือน
โดยนายอังกูร บุญรักษา ผอ.โรงเรียนบ้านช้างมิ่งพิทยานุกูล กล่าวว่า โรงเรียนสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ชั้น ม.1 ม.6 มีนักเรียน 176 คน ครูอาจารย์ 15 คน ทั้งจังหวัดมีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ 107 แห่ง และได้ทยอยเปิดเรียนเป็นวันแรกแล้ว ยังคงเหลือโรงเรียนประมาณ 20 แห่ง ที่ยังไม่สามารถเปิด โรงเรียนเราถือว่ากระทบหนักสุด ถึงแม้โรงเรียนจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่ด้วยสถานการณ์น้ำท่วมที่ยาวนานกว่าโรงเรียนอื่น ซึ่งน้ำได้เริ่มลดลงและจะทำการเปิดเรียนได้ตามปกติ แต่โรงเรียนเราต้องหยุดการเรียนนานกว่าเดือน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญ สาเหตุเพราะโรงเรียนอยู่ติดคลองระบายน้ำจากเขื่อนน้ำอูน เราได้หาทางออกโดยถือว่าวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้เป็นการปิดภาคเรียนของนักเรียน โดยเมื่อถึงเวลาปิดเทอมจริงก็จะเอาเวลาตรงนั้นมาชดเชยสอนให้กับนักเรียน สำหรับความช่วยเหลือก็มีภาครัฐและภาคประชาชนเข้านำสิ่งของมาช่วยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำหรับการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ถึงแม้เด็กนักเรียนหยุดเรียน แต่คณะครูทุกคนต้องมาลงชื่อทำงานตามปกติ พร้อมกับจัดเวรยามมาประจำที่โรงเรียนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และช่วงค่ำคืนทุกวัน
ด้านนายณัฐพงษ์ แก้วไชยา เด็กนักเรียน ม.3 โรงเรียนบ้านช้างมิ่งพิทยานุกูล กล่าวว่า นักเรียนเราทุกคนยังมีกำลังใจดีและก็ได้เข้ามาช่วยอาจารย์ขนย้ายสิ่งของและวางกระสอบทรายไม่ให้น้ำเข้าไปสู่ห้องเรียนต่างๆ แต่ก็อยากกลับมาเรียนแบบปกติโดยเร็ว และวอนให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม