ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สกลนคร เป็นวันที่ 4 โดยในวันนี้ น้ำในเขตเทศบาลนครสกลนคร บางจุดได้ลดลงบ้าง ยังคงเหลือแต่ในชุมชนหนองสนม และจุดที่ติดกับหนองหาร ซึ่งระดับน้ำยังคงสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถผ่านไปได้ จนท.ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจรไปมาเพื่อส่งข้าวและอาหารแห้ง ให้แก่ราษฎรที่ประสบภัย ขณะเดียวกันในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนน้ำอูน ปริมาณกักเก็บที่ 520 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้มีน้ำ 640 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 123% เขื่อนน้ำพุงปริมาณกักเก็บ 165 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันมีน้ำ 171.790 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 103.81 % ส่วนหนองหาร มีพื้นที่กว่า 78,000 ไร่ ระดับเก็บกัก 266 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้มีน้ำ 413 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 154% มากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปริมาณน้ำมากเช่นนี้ ทำให้ไหลบ่าเข้าเรือกสวนไร่นาและบ้านเรือนราษฎรที่อยู่รอบน้ำหนองหารเป็นบริเวณกว้าง โดยพื้นที่รอบหนองหารประกอบด้วย อ.เมือง อ.โพนนาแก้ว อ.กุสุมาลย์ อ.โคกศรีสุพรรณ
ส่วนภาพรวมทั้ง 18 อำเภอ ได้รับความเสียหายจำนวน 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.โพนนาแก้ว อ.กุสุมาลย์ อ.โคกศรีสุพรรณ อ.เต่างอย อ.พรรณานิคม อ.พังโคน อ.อากาศอำนวย อ.สว่างแดนดิน อ.คำตากล้า อ.วานรนิวาส อ.วาริชภูมิ และ อ.กุดบาก พื้นที่การเกษตรเสียหาย กว่า 200,000 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน กว่า 100,000 คน เส้นทางหลักและรองเสียหายกว่า 60 สาย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย โดยยังมีหมู่บ้านที่อยู่ในขั้นวิกฤติหลายแห่งที่มีน้ำล้อมรอบ ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร เช่น ที่ ต.เชียงสือ อ.โพนนาแก้ว 3 หมู่บ้าน ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ 4 หมู่บ้าน ต.เหล่าปอแดง ต.โคกก่อง อ.เมือง 7 หมู่บ้าน ต.นาซอ ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส 8 หมู่บ้าน ต.ต้นผึ้ง อ.พังโคน 5 หมู่บ้าน ต.แวง อ.สว่างแดนดิน 2 หมู่บ้าน
และบ่ายวันนี้ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาในเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและภาคอีสานในช่วงนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่ 2 และ 3 เข้าดูแลประชาชนและคลี่คลายสถานการณ์น้ำให้ยุติลงเร็วที่สุด และให้ดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัย โดยขณะนี้ กองทัพบกยังคงกำลังทหาร 26 กองร้อยช่วยเหลือประชาชน 2,300 นาย, ชุดแพทย์เคลื่อนที่ 8 ชุด, ชุดครัวสนามเคลื่อนที่ 5 ชุด, พร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย, รถยนต์บรรทุก 108 คัน, เรือ 39 ลำ, รถโกยตัก และเครื่องมืออื่นๆ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในภาคอีสาน เช่นที่ จ.สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ขอนแก่น ยโสธร ชัยภูมิ และมุกดาหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังสั่งการให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทั่วไป แบบ MI 17 เข้าช่วยลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์และตรวจสอบพื้นที่วิกฤติ โดยขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ฯ ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน จ.สกลนคร และในวันนี้จะบินไปรับถุงยังชีพจาก จ.ขอนแก่นและนำไปแจกจ่ายในพื้นที่น้ำท่วมสูงของ อ.พรรณานิคม, อ.วานรนิวาส, อ.อากาศอำนวย และ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร รวมทั้งจะทำการสำรวจทางอากาศ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมวิกฤติตามเส้นทางการบินด้วย
ที่ จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงดูแลการดำรงชีวิตประจำวันในด้านอาหารและการสัญจร รวมทั้งการเร่งระบายน้ำ นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้เพิ่มเติมกำลังจาก กรมทหารราบที่ 13 พร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย เข้าไปดูแลใน อ.พรรณานิคม และ อ.วานรนิวาส เนื่องจากปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับสูงและขยายวงกว้าง นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังได้เข้าช่วยก่อสร้างสะพานแบรี่เชื่อมต่อระหว่าง จ.สกลนคร และ อุดรธานี ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเสียหายจากน้ำท่วม คาดว่าในวันนี้จะเปิดใช้สะพานดังกล่าวได้
ที่ จ.นครพนม การช่วยเหลือขณะนี้เร่งด่วนอยู่ที่พื้นที่วิกฤติใน อ.นาแก และ อ.นาหว้า เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.สกลนคร โดยขณะนี้ได้เร่งอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสานในขณะนี้ อาจมีน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำเอ่อล้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากทิศทางของน้ำจะไหลสู่แม่น้ำโขงและอาจมีการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาว ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารประจำพื้นที่ในจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังและอาจได้รับผลกระทบ อาทิ จ.นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และ ยโสธร ได้เพิ่มเติมกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำ และดูแลประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ปลอดภัยแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม