โฆษกศาลยุติธรรม ยันไม่มีการแทรกแซง ก.ต. พิจารณาคุณสมบัติ 'ศิริชัย'
logo ข่าวอัพเดท

โฆษกศาลยุติธรรม ยันไม่มีการแทรกแซง ก.ต. พิจารณาคุณสมบัติ 'ศิริชัย'

ข่าวอัพเดท : โฆษกศาลยุติธรรม แถลงไม่มีการแทรกแซง ก.ต. และ อ.ก.ต. พิจารณาคุณสมบัติไม่เห็นชอบให้ นายศิริชัย ขึ้นตำแหน่งประธานศาลฎีกา ยืนยัน

2,197 ครั้ง
|
19 ก.ค. 2560
       โฆษกศาลยุติธรรม แถลงไม่มีการแทรกแซง ก.ต. และ อ.ก.ต. พิจารณาคุณสมบัติไม่เห็นชอบให้ นายศิริชัย ขึ้นตำแหน่งประธานศาลฎีกา ยืนยัน ไม่มีการแทรกแซง ส่วนการสอบวินัยยังเดินหน้าหากพบผิดจริง สามารถลงโทษย้อนหลังแม้นายศิริชัยจะลาออกแล้ว พร้อมย้ำ ภายในศาลยุติธรรมไม่มีการเมืองภายใน
 
        นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีนายศิริชัย วัฒนโยธิน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีกา และ ยังถูกคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ อ.ต.ก.และ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต.ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยโฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) รวมถึง คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) มีการหาพยานหลักฐานตามขั้นตอน ตรงตามข้อเท็จจริง 
 
         ซึ่งทาง อ.ก.ต. มีการพิจารณาและเปิดโอกาสให้ทางนายศิริชัย ได้มีการชี้แจงถึงสองครั้ง เกี่ยวกับข้อประเด็นเกี่ยวกับการโอนสำนวนคดี และการเพิกถอนสำนวนคดี ที่ทาง อ.ก.ต. ยกมาพิจารณา และเมื่อพิจารณาจากหลักฐานและข้อเท็จจริงทำให้ได้ข้อสรุปว่านายศิริชัย ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งประธานศาลฎีกา เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นในศาลสูงสุดได้ อย่างศาลฎีกา จึงต้องมีการพิจารณาให้ ผู้ที่มีอวุโสลำดับที่สอง มาดำรงค์ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าเป็นการทำตามขั้นตอนของกฏหมาย และคณะกรรมการ ทั้งของ อ.ก.ต. และ ก.ต.เป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิ มีเกียรติ ไม่สามารถมีการเข้าไปแทรกแซงได้ ตามที่นายศิริชัยกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยเกี่ยวกับการเพิกถอนคดี และการโอนสำนวนคดี ที่มีการยกมาพิจารณา ตามที่นายศิริชัย มีการอ้างถึงว่าไม่มีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติ แต่ในข้อเท็จจริงมีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติ ซึ่งต่อจากนี้หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นว่ามีความผิดจริง ก็สามารถลงโทษตามหลักปฏิบัติได้ ซึ่งสามารถมีผลย้อนหลังได้แม้ว่านายศิริชัย จะลาออกไปแล้วก็ตาม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณา 30 วัน หรือสามารถขยายระยะเวลาได้อีกสองครั้ง ครั้งละ 15 วัน และหากว่ามีการลงความเห็นว่านายศิริชัยผิด ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องก็จะมีการนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง และเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารราแล้วจะนำผลมาแสดงต่อสาธารณชนต่อไป 
 
          ในเรื่องตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ที่นายศิรัชัยอ้างว่า เป็นตำแหน่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ในข้อเท็จจริง ก.ต. สามารถตั้งตำแหน่งใหม่ ที่เทียบเท่าตำแหน่งอื่นได้ ขอยืนยันว่าตำแหน่งดังกล่าวชอบด้วยกฏหมาย ส่วนที่นายศิริชัย มีการออกแถลงข่าวพาดพิง กระบวนการศาลยุติธรรมซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะไม่มีการฟ้องนายศิริชัย เนื่องจากเป็นบุคคลาการตุลาการที่มีผลงานสร้างคุณงามความดีมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้โฆษกศาลยุติธรรม ยังระบุว่าภายในศาลยุติธรรมยังยืนยันว่าไม่มีการเมืองภายในศาลยุติธรรม หรือมีการเล่นพรรคพวกอย่างแน่นอน