ผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ เหิมเกริม โพสต์เฟสบุ๊ค ประกาศ ตัดหัวแม่ทัพภาค 4 ให้รางวัล 1 ล้าน
logo ข่าวอัพเดท

ผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ เหิมเกริม โพสต์เฟสบุ๊ค ประกาศ ตัดหัวแม่ทัพภาค 4 ให้รางวัล 1 ล้าน

ข่าวอัพเดท : ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Suding Su Pattany ทำการโพสต์ภาพของ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 และ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภ

94,520 ครั้ง
|
06 ก.ค. 2560
            ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Suding Su Pattany ทำการโพสต์ภาพของ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 และ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงบนเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยภายในภาพที่โพสนั้น มีการเขียนข้อความซึ่งมีใจความว่า “ประกาศตัดหัวให้ 1,000,000” โพสต์ดังกล่าว เชื่อว่าได้ถูกโพสเมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ก.ค.60 ที่ผ่านมา
 
ข่าวอัพเดท :  ผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ เหิมเกริม โ
 
            ซึ่งหลังจากที่เฟสบุ๊คดังกล่าว ได้โพสภาพ แม่ทัพภาค 4 พร้อมข้อความประกาศ อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ก็ได้มีผู้ที่เข้าไปคอมเม้นแสดงความคิดเห็นต่อกรณีโพสดังกล่าว ด้วยความที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ เฟสบุ๊ค ดังกล่าว ไม่มีการแสดงตัวตนผู้เป็นเจ้าของเฟสบุ๊ค อีกทั้งมีการโพสข้อความที่บิดเบือนต่อกรณีการเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายต่อหลายเหตุการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีหลายฝ่าย ในคณะทำงานเพื่อแก้ไขความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ได้มีการเสนอแนะให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ใช้เทคโนโลยี ด้านการสื่อสาร ทั้งเครื่องมือพร้อมผู้ปฏิบัติงานที่มีความชำนาญ เข้ามาร่วมปฏิบัติงาน เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้กระทำการทาง กลุ่มสื่อโซเชียลต่าง ๆ รวมไปถึงเฟสบุ๊ค และไลน์ ที่ได้ใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร 
 
        ในปัจจุบันบิดเบือนข่าวสาร ข้อเท็จจริงในพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ มักจะถูกกลุ่มผู้คิดต่าง และกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุความไม่สงบ ใช้สื่อโซเชียลในการแจ้งข้อมูลที่ต่างจากความเป็นจริง อีกทั้งยังไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ดังจะเห็นได้จาก การโพสข้อความประกาศตัดหัวแม่ทัพภาค 4 ถือเป็นการท้าทายหน่วยงานความมั่นคงที่พยายามแก้ไขปัญหาคามไม่สงบในพื้นที่
 
        ทั้งนี้ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 มีนโยบายแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิด หรือ ผู้ที่ก่อเหตุ เข้ารายงานตัวกับทางการ ในโครงการพาคนกลับบ้าน ซึ่งยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรม โดยที่ผ่านมา ก็มีผู้เห็นต่างกลับใจมาร่วมพัฒนาชาติไทย และเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้วเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ กลุ่มขบวนการเกิดความสั่นคลอน และเริ่มมีความขัดแย้งกับกลุ่มแนวร่วมด้วยกันเอง จึงได้ใช้วิธีการต่าง ๆ ในการปลุกระดมและบิดเบือนข่าวสารที่เท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง