หนุ่มทาสยาบ้าเกิดอาการประสาทหลอนว่าจะมีคนมาทำร้าย ควงปืนและมีดดักยิงคนข้างทาง ก่อนบุกเผาร้านขายของชำกลางหมู่บ้านวอด 1 หลัง รถเก๋ง รถ จยย.ได้รับความเสียหายอีก 3 คัน
เหตุการณ์ระทึกกลางหมู่บ้านนาสีนวล ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เมื่อมีชายอายุ 40 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมด้วยจอบตระเวนทุบทรัพย์สินภายในบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนาสีนวล จากนั้นไปทุบทำลายร้านขายของชำพร้อมยิงปืนเจ้าของร้านเห็นท่าไม่ดีจึงปิดร้าน ก่อนผู้ก่อเหตุจะงัดและทุบร้านเข้าไปจุดไฟเผาจนไฟลุกไหม้พังเสียหาย ชาวบ้านรีบแจ้งไปยัง จนท.ตำรวจ สภ.โคกศรีสุพรรณ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาช่วยกันล้อมจับ ก่อนจะจับกุมตัวได้ใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นายสุริยา ฮ่มเป่า อายุ 40 ปี ชาวบ้านเดียวกัน ระหว่างนั้นรถดับเพลิงจากเทศบาลตองโขบและชาวบ้านต่างพากันช่วยควบคุมเพลิงร้านขายของชำไว้ได้
นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอโคกศรีสุพรรณ พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ ผกก.สภ.โคกศรีสุพรรณ รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบความเสียหาย พบว่านอกจากความเสียหายของบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแล้ว ขณะก่อเหตุนายสุริยายังยิงปืนไปถูกกระจกรถเก๋งของ น.ส.อรัญญา ชากัน จนท.ธุรการ อบต.แมดนาท่ม ที่ขับผ่านมาพอดี จนได้รับความความเสียหายกระสุนผ่านใบหูอย่างฉิวเฉียด โชคดีไม่ได้รับอันตราย
สอบถามไปยังผู้เป็นพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุทราบว่า นายสุริยา ได้เสพยาบ้าก่อนจะคลุ้มคลั่งแล้วโกรธเคืองผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หาว่าโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาจับกุมตนเอง
นายขันชัย ชาชัย อายุ 49 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายกล่าวว่า ช่วงเช้าขณะเปิดร้านขายของปกติ จากนั้น นายสุริยา ซึ่งก็เป็นคนบ้านติดกัน ได้เดินมาที่ร้านพร้อมจอบทุบไปที่ตู้เติมเงินโทรศัพท์พังเสียหาย จึงตระโกนไปว่าทุบทำไมแต่ดูเหมือนไม่ฟังและเดินกลับไป ตนเห็นท่าไม่ดีจึงปิดประตูร้านก่อนจะเข้าไปหลบอยู่หลังร้านแต่ นายสุริยา วนกลับมาอีกพร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มีเสียงปืนดัง
ตนจึงวิ่งหนีออกจากร้าน สักพักเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นที่ร้านของตนก่อนจะลุกไหม้เสียหายทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 3 แสน บาท ทั้งนี้ไม่รู้จะทำยังไงจะเรียกค่าเสียหายจากพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุ ก็คงเป็นไปได้ยากเนื่องจากยากจนและแก่เฒ่าแล้ว
นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอโคกศรีสุพรรณ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากยาเสพติด ถือว่ายังดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ที่เสียหายหนักจะเป็นร้านขายของชำทั้งนี้การช่วยเหลือจะพิจารณาอยู่ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เบื้องต้นจะนำ อส.มาเก็บกวาดทำความสะอาด หลังจากตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อไปอาจจะเปิดระดมบริจาคหรือช่วยกันซ่อมแซมร้านค้าที่เสียหาย ส่วนทางคดี จนท.ตำรวก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและควบคุมตัวที่ สภ.โคกศรีสุพรรณ.