นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ห่วง พระราชกำหนด การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ปี 2560 จะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ ชี้เนื้อหาไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาจริง แนะ ขอให้ทบทวนรายละเอียดบางประเด็น ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการทีดีอาร์ไอ กล่าวถึง กรณีการออก พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ปี 2560 ที่มีโทษปรับสูงว่า เห็นด้วยกับที่ภาครัฐ เตรียมออกมาตรา 44 เพื่อชะลอการบังคับใช้ ให้นายจ้างและแรงงานได้ปรับตัวในระยะเวลา 120 วัน เป็นสิ่งที่มาถูกทางแม้จะแก้ไขเพียงเฉพาะหน้าเท่านั้น พร้อมเสนอให้ทบทวนรายละเอียดบางประเด็น เนื่องจากไม่สอดคล้องสภาพความเป็นจริง เช่น สภาพแรงงานต่างด้าวที่เปลี่ยนงานบ่อย ย้ายพื้นที่ ย้ายกิจกรรม /ต้นทุนการจดทะเบียนที่สูง และ การใช้โทษที่รุนแรง มองว่า จะยิ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงให้เกิดการรีดไถ มากกว่าการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ระบุเป็นเรื่องที่น่ากังวล หลังปฏิกิริยาแรงงานต่างด้าวบางส่วนที่เดินทางกลับหลังทราบว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งระยะสั้น ห่วงจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ประมง แปรรูป สิ่งทอ ก่อสร้าง และ การเกษตร บริการ ที่ไม่มีแรงงานคนไทยทำ และ ต้องพึ่งพิงแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก ดังนั้น ระยะยาวจะส่งผลต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ซึ่งอาจมีผลต่อ จีดีพี ลดต่ำลงไปถึง ร้อยละ 1 ถึง 1.5
ดร.นณริฏ เสนอทางออกภาครัฐใน 3 ประเด็น คือ 1.วางแผนบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ เช่น กำลังแรงงาน ความเป็นอยู่ ให้ชัดเจน ภายใต้โจทย์สังคมจะอยู่ร่วมกับแรงงานต่างด้าวอย่างไร 2.ปรับเปลี่ยนทัศนคติ การใช้โทษรุนแรง และ เข้าใจว่าการใช้แรงงานต่างด้าวเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลือก และ 3.ออกแบบกฎระเบียบ ที่เอื้ออำนวย และสอดคล้องความเป็นจริง เช่น สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต้นทุนไม่แพง และ สิทธิสวัสดิการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม