จากกรณีนายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 29 ปีอดีตพิธีกรรายการดัง "เวคคลับ" ใช้กำลังทำร้ายตบและต่อยหลายครั้งบริเวณใบหน้าของนายกิตติศักดิ์ หรือบอย สิงห์โต อายุ 26 ปี พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน คู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถยนต์มินิของนายอัครณัฐ จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักและบังคับให้ยกมือกราบรถเมื่อวันที่ 4 พ.ย.59 ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ผ่านสื่อโซเชียลจนโด่งดังเป็นข่าว
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความของคู่กรณีคือนายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเข้าฟังคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคำสั่งศาลพิพากษาให้นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล และเพื่อน จำคุก 2 ปี แต่เนื่องจากรับสารภาพจึงลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 1 ปี และรอลงอาญาอีก 2 ปี และในระหว่างนี้จะต้องทำงานบริการสังคมให้ครบ 24 ชั่วโมง พร้อมกับต้องคุมประพฤติ 1 ปี และเข้ารายงานตัวทุก 3 เดือนรวม 4 ครั้ง ส่วนในเรื่องของการเยียวยาจากการไกล่เกลี่ยในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 นั้น นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ได้ตกลงให้เงินเยียวยากับนายนายกิตติศักดิ์ สิงโต เป็นจำนวนเงิน 1 แสน 8 หมื่นบาท
นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือน็อต ให้สัมภาษณ์หลังทราบคำตัดสินว่า หลังจากนี้เรื่องของการบริการสังคมตนเองจะใช้การสอนหนังสือให้กับเด็ก เพราะว่าจะได้สอนให้เด็กมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น เรื่องของการขับรถจนถึงตอนนี้ตนยังไม่อยากขับรถ ส่วนเรื่องของงานในวงการบันเทิงก็รอเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ก็มีติดต่อมาบ้าง
ทั้งนี้ในส่วนของคดีที่นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุลได้แจ้งความไว้ที่ สน.ยานนาวา ว่านายกิตติศักดิ์ สิงโต ขับรถชนแล้วหลบหนีนั้น ทางอัยการยังไม่มีคำสั่งลงมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้วเป็นเงิน 400 บาท
อนึ่ง คดีนี้อัยการบรรยายฟ้อง ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.59 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ดึงกระชากคอเสื้อของนายกิตติศักดิ์ หรือบอย พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหายคู่กรณีขี่รถจักรยายนต์เฉี่ยวชน จากที่นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ มาอีกฝั่งหนึ่งของถนนบริเวณปาก ซ.เจริญกรุง 44 แขวง-เขตบางรัก ที่มีรถยนต์ยี่ห้อ "มินิ" ของนายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 จอดอยู่ แล้วใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหัก และกระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้งสองข้าง และแก้มด้านซ้ายบวมซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส หลังจากนั้น จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันข่มขืนใจผู้เสียหายให้กราบรถยนต์ของนายอัครณัฐ จนทำให้ผู้เสียหายต้องจำยอมกราบรถจำเลยที่ 1 โดยไม่ได้สมัครใจซึ่งเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้เสียหายให้ได้รับความอับอาย
+ อ่านเพิ่มเติม