ศาลอาญานัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยื่นขอถอนฟ้องคดีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ตกเป็นจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ จากการที่นายศุภชัย ให้เจ้าหน้าที่บัญชีเบิกเงินสดของสหกรณ์ฯ รวมกว่า 22 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีของตัวเองและบุคคลที่ 3 โดยทุจริต
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายศุภชัย 14 ปี 24 เดือน (หรือ 16 ปี)แต่เนื่องจากระหว่างที่มีการอุทธรณ์คดี นายศุภชัยได้ให้ทนายความชดใช้เงินคืนให้กับสหกรณ์ฯ รวมกว่า 35 ล้านบาท สหกรณ์ฯในฐานะผู้เสียหาย จึงได้มอบหมายให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูของสหกรณ์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสมาชิก และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายทะเบียนสหกรณ์ ดังนั้นเมื่อเกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูง กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และนายทะเบียนได้สั่งระงับการถอนฟ้องในคดีนี้แล้ว ดังนั้นผู้บริหารแผนฟื้นฟูที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการของสหกรณ์ฯ จึงไม่มีอำนาจในการขอถอนฟ้องคดีนี้อีก
ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอถอนฟ้อง โดยให้คดีดำเนินไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไปอย่างไรก็ตามนอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีคดีที่นายศุภชัยตกเป็นจำเลยอีก 3 คดี ซึ่งมีคดีที่ร่วมกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฟอกเงินอยู่ด้วย รวมถึงยังมีคดีที่อยู่ในการทำสำนวนของดีเอสไอรวมอีกกว่าสิบคดีนายวันชัย บุนนาค ทนายความของนายศุภชัย เปิดเผยว่า ภายหลังฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ นายศุภชัยเตรียมยื่นคำร้องฎีกาให้ศาลพิจารณาถอนฟ้องต่อไปภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตามการยกคำร้องของศาลวันนี้ไม่มีผลผูกโยงกับคำพิพากษา ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 14 ปี 24 เดือน และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นอุทธรณ์.