นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าไม่มีการอัดเสียงการสนทนาระหว่างเขากับนายเจมส์ โคมี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ หลังจากเขาทวีตจุดประเด็นเรื่องนี้เองเมื่อเดือนก่อน
โดยทวีตจุดประเด็นดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมามีข้อความว่า "ก่อนที่เขาจะเริ่มให้ข่าวกับสื่อ โคมีน่าจะหวังว่าให้ไม่มีเทปสนทนาระหว่างผมกับเขาก่อนจะดีกว่า" และทวีตที่ออกมาปฏิเสธตามหลังดังกล่าวเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) มีใจความว่า "จากข้อมูลการตรวจตราในระบบอิเล็กโทรนิกส์, การเปิดโปง รวมถึงการรั่วไหลที่ผิดกฎหมายของข้อมูลต่างๆ ที่ถูกรายงานในช่วงเร็วๆนี้ ผมไม่ทราบว่าจะมีเทป หรือการบันทึกการสนทนาระหว่างผมกับโคมี แต่ผมไม่ได้ทำ และไม่มีเทปพวกนี้ด้วย"
นับเป็นการยุติการคาดการณ์ไปต่างๆนานาสำหรับเรื่องการสนทนาลับระหว่างทรัมป์กับโคมีที่เกิดขึ้นตลอดระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯหลายแห่งผ่านการสัมภาษณ์และขอข้อมูลตามกฎหมายก็ระบุตรงกันว่า ไม่มีการใช้อุปกรณ์บันทึกการสนทนาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
แต่ผลกระทบจากทวีตจุดประกายดังกล่าวก็เกิดขึ้นแล้ว โดยนายโคมียืนยันว่าข้อความขู่ของทรัมป์ ทำให้เขาต้องเปิดเผยเนื้อหาในบันทึกที่เขาโต้เถียงกับนายทรัมป์ให้กับสื่อมวลชนผ่านอาจารย์คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ขณะที่เจ้าหน้าที่บริหารของทางการสหรัฐฯ รายหนึ่งก็ระบุกับซีเอ็นเอ็นว่า ทรัมป์จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องพลั้งปากในครั้งนี้่ก่อนจะถึงเส้นตายในวันศุกร์ ที่สภาคองเกรสกำหนดให้ทรัมป์ต้องส่งมอบเทปบันทึกเสียงใดๆ ที่มีอยู่
ด้านทำเนียบขาวระบุว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีเทปเสียงดังกล่าวอยู่จริงหรือไม่ โดยนางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวก็ระบุเพียงว่า เธอจะพยายามมองหาดูว่ามีระบบบันทึกเสียงในทำเนียบขาวจริงหรือเปล่า ขณะที่คนเขียนชีวประวัติของนายทรัมป์ก็ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่าเขาเคยถูกนายทรัมป์ขู่ว่ามีการบันทึกการสนทนาระหว่างเขาและทรัมป์เอาไว้ แต่เมื่อมีผู้มานั่งร่วมสนทนาด้วย ทรัมป์กลับบอกกับคู่สนทนารายนั้นว่าเรื่องเทปไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงเรื่องขู่เท่านั้น
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีที่ "อาจ" มีเทปบันทึกการสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะมีการเปรียบเทียบกับกรณีฉาว "วอเตอร์เกต" ที่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯ ต้องก้าวลงจากตำแหน่งด้วยการลาออก หลังมีการบันทึกเสียงสนทนาในห้องทำงานของเขา ซึ่งบ่งชี้ชัดเจนว่านิกสันมีส่วนรู้เห็นกับการโจรกรรมข้อมูล ณ ที่ทำการพรรคเดโมแครต
ขณะที่ทรัมป์เพิ่งไล่นายโคมีออกจากตำแหน่งผอ.เอฟบีไอเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ก่อนหน้าจะมีทวีตขู่ว่ามีเทปลับจากทรัมป์เพียง 3 วัน และการไล่นายโคมีออกจากตำแหน่งถูกคาดการณ์ว่าอาจมีส่วนมาจากการสอบสวนกรณีรัสเซียเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งความเป็นไปได้ว่าทีมหาเสียงเลือกตั้งของนายทรัมป์จะมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย แต่ทรัมป์ยืนยันว่าเขาไล่โคมีออกเพราะทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอเท่านั้น
+ อ่านเพิ่มเติม