พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง นายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มเครือข่ายของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋หรือไม่ แม้นายกรัฐมนตรีจะระบุว่านายวัฒนาไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่จากข้อมูลขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานสาวไปถึงจึงไม่สามารถระบุได้และจากข้อมูลขณะนี้ยังไม่พบว่าโกตี๋อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งหากมีข้อมูลที่ชัดเจนก็พร้อมจะประสานทางการกัมพูชาเพื่อติดตามตัวมาลงโทษ
ขณะเดียวกันไม่กังวลว่าจะมีการเลียนแบบพฤติกรรมแบบนายวัฒนาไปก่อเหตุเพราะไม่ชอบทหาร เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนบุคคล และรัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ ขณะเดียวกันไม่ติดใจที่นายวัฒนาเลือกก่อเหตุที่ห้องวงษ์สุวรรณด้วย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ คุมตัวนายวัฒนา ผู้ต้องหามือระเบิด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันที่สองเพิ่มเติมอีกเจ็ดจุด ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาผัดแรกพรุ่งนี้ โดยการทำแผนวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. ซึ่งผู้ต้องหาไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ค่อนข้างอิดโรย
การทำแผนจุดแรกเป็นการทําแผนย่านบางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งแบ่งเป็น 4 จุดย่อย โดยเริ่มต้นที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จุดนี้ผู้ต้องหาได้นํารถฮอนด้าซิตี้ มาจอดไว้ ก่อนที่จะเปิดฝากระโปรง นําเอารถจักรยานออกมาเพื่อปั่นออกไปก่อเหตุ จากนั้นก็ได้คุมตัวมาที่บริเวณ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ซอย 2 ซึ่งเป็นจุดที่นายวัฒนามาซื้อแจกันดอกไม้ โดยร้านค้าที่มาซื้อเป็นร้านค้าที่จําหน่ายสินค้าราคา 20 บาททั้งร้าน โดยผู้ต้องหาเลือกแจกันที่เป็นลักษณะติดกับฝาผนัง สีเขียว ที่ใช้สําหรับซุกซ่อนไปป์บอม จากนั้นตํารวจได้คุมตัวมาที่คอนโดมิเนี่ยมที่บางกรวย-ไทรน้อย ซอย 10 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมของหญิงคนสนิทที่นายวัฒนามาพักก่อนไปก่อเหตุ และจุดสุดท้ายของย่านบางกรวย คือ ตลาดนัดหลังโรงไฟฟ้าบางกรวย ที่นายวัฒนามาซื้อท่อพีวีซีสําหรับใช้ประกอบไปป์บอม
ส่วนจุดที่ 2 เป็นบริเวณหน้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 97 เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถจักรยานมาจอดไว้ ก่อนที่จะขึ้นรถประจำทางไปก่อเหตุที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมถึงเดินทางกลับจากที่เกิดเหตุมาลงรถประจำทาง จากนั้นจุดที่ 3 เป็นร้านจําหน่ายอุปกรณ์แห่งหนึ่งใกล้กับแยกสะพานมอญ บริเวณบ้านหม้อ โดยจุดนี้ผู้ต้องหาได้มาซื้อ IC Timerหรือเครื่องหน่วงเวลา รวมถึงถ่าน ตัวคาพาซิเตอร์ และแผ่นปริ้นวงจร ทั้งนี้ บางช่วงบางตอนของการทําแผนผู้ต้องหาระบุว่า เวลามาซื้อจะจดใส่กระดาษและยื่นให้กับพนักงานขาย
ส่วนช่วงบ่ายเป็นทำแผนอีก 4 จุด คือ บริเวณหน้ากองสลากเก่า ที่ผู้ต้องหานั่งรถประจำทางมาลง และนำระเบิดมาวางไว้ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่ 5 ที่หน้าโรงละครแห่งชาติ ส่วนอีกสองจุดที่เหลือ คือที่บริเวณตู้โทรศัพท์หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ที่เกิดเหตุขึ้นปี 2550 และสถานที่สุดท้ายคือบริเวณหน้าปากซอยราชวิถี 24 ที่เกิดเหตุในปี 2550 เช่นเดียวกัน โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่สองนี้ เป็นการทำแผนเพิ่มเติมอีก 7 จุด ก่อนที่จะควบคุมตัวกลับมาที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท และจะนำตัวไปฝากขังผัดแรกในวันพรุ่งนี้
+ อ่านเพิ่มเติม