Facebook เว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังของโลกเปิดเผยผ่านบล็อกของบริษัทว่า Facebook ได้เริ่มการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อค้นหาและกำจัดเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายให้ทันท่วงที
เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำงานร่วมกับผู้ตรวจสอบเนื้อหาที่เป็นมนุษย์ ในการค้นหาและลบเนื้อหาเชิงก่อการร้ายทันที ก่อนที่จะมีผู้ใช้ Facebook ได้เห็น ซึ่งก่อนหน้านี้เทคโนโลยีดังกล่าวก็ถูกนำมาใช้กับการปิดกั้นภาพลามกอนาจารของเด็กบน Facebook และ Youtube แล้ว โดยก่อนหน้านี้การลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมจะกระทำในกรณีที่มีผู้ใช้แจ้ง (Report) เข้ามาเท่านั้น
การใช้งานปัญญาประดิษฐ์นั้น จะมีการจับคู่ภาพและวิดีโอที่อัพโหลดขึ้นไป เปรียบเทียบกับรูปแบบของภาพและวิดีโอซึ่งถูกระบุว่าเป็นภาพเกี่ยวกับการก่อการร้าย ที่เคยถูกอัพโหลดเข้าสู่ระบบมาก่อนหน้านี้ หากพบว่าภาพรูปแบบดังกล่าวเคยถูกลบออกจาก Facebook มาก่อน หรือตรงกับฐานข้อมูลที่หลายบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook, Microsoft, Twitter, Youtube ใช้ร่วมกัน ภาพ-วิดีโอเหล่านั้นก็จะเข้าข่ายที่จะถูกลบออกไป
ขณะเดียวกัน Facebook ก็กำลังพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับตรวจจับข้อความที่เชื่อมโยงกับการก่อการร้าย โดยเปรียบเทียบและตรวจจับข้อความที่ผู้ใช้โพสต์เข้ามา กับข้อความที่เคยถูกลบเพราะความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายด้วยเช่นกัน ระบบจะเรียนรู้ข้อความที่อยู่ในข่ายถูกลบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถตรวจจับได้เองโดยอัตโนมัติ
Facebook และบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตต่างๆ กำลังประสบกับภาวะแรงกดดันจากรัฐบาลหลายประเทศ ในการค้นหาและป้องกันการแพร่กระจายโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการก่อการร้าย และการหาสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกร่างข้อตกลงร่วมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของลัทธิสุดโต่งบนสื่อออนไลน์ โดยมีมาตรการบางประการที่ให้บริษัทเจ้าของสื่อออนไลน์ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายกับเนื้อหาที่แสดงบนเว็บไซต์ ขณะเดียวกันผู้บริหารของ Facebook เองก็ยอมรับว่าผู้คนต่างตั้งคำถามมายังบริษัทเทคโนโลยีเพื่อให้มีบทบาทในการต่อต้านการก่อการร้ายในสื่อออนไลน์เช่นกัน
+ อ่านเพิ่มเติม