รองโฆษก อสส. ยัน นำตัว "บอส" มาดำเนินคดีก่อนหมดอายุความ เผย ยังไม่มีรายการการเปลี่ยนสัญชาติ

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงภายหลังการประชุม ร่วมกับตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเด็นการติดตามตัว นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ผู้ต้องหาขับรถโดยประมาทชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสิรฐ อดีตผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อจนเสียชีวิต ซึ่งยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ

นายประยุทธระบุว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการเร่งรัดดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหา โดยยืนยันทั้งอัยการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานกันอย่างใกล้ชิด มีการหารือวางกรอบแนวทางเพื่อให้การทำงานให้มีประสิทธิภาพ ส่วนในรายละเอียดนั้นขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดำเนินการและเป็นฝ่ายชี้แจงความคืบหน้า อย่างไรก็ตามทั้งอัยการและตำรวจมีความมั่นใจว่าจะดำเนินการติดตัวนายวรยุทธมาให้ได้ก่อนหมดอายุความ โดยเฉพาะข้อหาชนแล้วหนี ไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายนปีนี้ ส่วนที่อยู่ของผู้ต้องหา รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุเพียงว่าอยู่ระหว่างดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากหวั่นกระทบการทำงานภาพรวม ส่วนกรณีที่นายวรยุทธอาจมีการโอนสัญชาติหรือไม่นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในส่วนนี้

ด้านนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการต่างประเทศ ระบุว่า การประชุมวันนี้มีการพิจารณาเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดีของนายวรยุทธ เช่นเอกสารหมายจับ เอกสารคำร้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเบื้องต้นได้แปลเป็นภาษาอังกฤษเตรียมไว้ รวมทั้งมีการพิจารณาสถานที่ที่ผู้ต้องหาหลบหนี เพื่อจะได้จัดทำชุดเอกสารจำนวนให้เพียงพอพร้อมดำเนินการ ซึ่งกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี หากพบสถานที่อยู่ของนายวรยุทธเมื่อใด ฝ่านอัยการก็จะสามารถดำเนินการด้านเอกสารได้ทันที ไม่ต้องมาขอเอกสารเพิ่มเติมในภายหลัง ทำให้กระบวนการรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในส่วนของตำรวจเชื่อว่าได้ทำหน้าที่ถึงที่สุดแล้ว ซึ่งอัยการก็มีความเห็นใจ ส่วนกรณีหากนายวรยุทธไปอยู่ในประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นก็จะทำให้การประสานงานง่ายขึ้น แต่ถ้าเป็นประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญา ก็ต้องใช้วิธีขอทางการทูต อย่างไรก็ตามอัยการไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการทำงานของตำรวจ