มาตรวจสอบผลพวงจากการตัดความสัมพันธ์กับการทูตระหว่างประเทศในตะวันออกกลางกับกาตาร์ ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบแค่ในภูมิภาคตะวันออกกลางเท่านั้น ล่าสุดทางการไทยระบุ ไทยอาจได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจบ้าง หวั่นคนไทยเจอปัญหาขาดน้ำ-อาหาร แต่ด้านการบินยังคงเป็นไปตามปกติ ส่วนฟิลิปปินส์สั่งห้ามพลเมืองของตนเองเดินทางไปทำงานในกาตาร์แล้ว
จากการประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 6 ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางกับประเทศกาตาร์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศของไทยระบุว่า ขณะนี้มีผลกระทบหลักๆคือเรื่องอาหารและน้ำสำหรับคนไทยในกาตาร์ เนื่องจากช่องทางขนส่งทั้งทางบก เรือ อากาศถูกปิด และอาจส่งผลถึงการประชุมอาเซียนและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) ในปลายปีนี้ เพราะหากสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางไม่ดีขึ้นอาจทำให้การประชุมจีซีซีไม่เป็นไปตามกำหนดการเดิม
ด้านความเห็นจากหน่วยงานใต้กำกับกระทรวงพาณิชย์ของไทย ทั้งโฆษกกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่าการค้าระหว่างไทยกับกาตาร์อาจมีผลกระทบบ้างจากภาวะเศรษฐกิจของกาตาร์ที่ชะลอตัวลง ขณะที่การขนส่งสินค้าผ่านทางเมืองดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็จะทำไม่ได้ ต้องเปลี่ยนไปขนส่งโดยตรงเข้ากาตาร์ผ่านท่าเรือในกรุงโดฮาแทน ด้านความกังวลเรื่องราคาน้ำมันก็อาจมีผลกระทบบ้าง แต่กาตาร์ก็ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นัก
อีกด้าน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่าการบินไทยไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังกรุงโดฮาของกาตาร์ หรือบินผ่านน่านฟ้าของกาตาร์จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ก็เปิดเผยว่าเที่ยวบินของสายการบินกาตาร์ แอร์ไลนส์ จากสนามบินสุวรรณภูมิยังคงเปิดทำการบินตามปกติเช่นกัน
ข้ามไปที่ฟิลิปปินส์ ล่าสุดรัฐบาลฟิลิปปินส์สั่งห้ามพลเมืองเดินทางไปทำงานในกาตาร์ชั่วคราวจนกว่าจะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจน โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุเมื่อวันอังคารว่า มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่แรงงานฟิลิปปินส์อาจจะได้รับจากการไปทำงานในกาตาร์ภายใต้วิกฤติครั้งนี้ โดยเฉพาะการขาดแคลนอาหารซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการปิดชายแดนระหว่างซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ เพราะกาตาร์นำเข้าอาหารกว่าร้อยละ 90 ของการบริโภคภายในประเทศ
ล่าสุด นายซิลเวสเตอร์ เบลโล เลขาธิการกระทรวงแรงงานและการจ้างงานของฟิลิปปินส์ระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลไปจนกว่าการประเมินสถานการณ์จะเสร็จสิ้น เพราะในขณะนี้มีข่าวลือมากมายที่ระบุว่าสถานการณ์ยังคงไม่ปกติ
กาตาร์พึ่งพาแรงงานต่างชาติจากชาติต่างๆถึงกว่าล้านคน ทั้งจากอินเดีย เนปาล และบังคลาเทศ ส่วนฟิลิปปินส์มีพลเมืองไปทำงานในตะวันออกกลางกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ทำงานในกาตาร์กว่า 140,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมลูกเรือ ก่อสร้าง พยาบาล และจากสถิติของกองบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่ามีคนไทยทำงานในกาตาร์ 1,360 คน
งานก่อสร้างที่อาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ เช่น การก่อสร้างท่าเรือ, เขตรักษาพยาบาล, โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงสนามที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 ถึง 8 แห่ง นอกจากนี้ วัสดุก่อสร้างสำคัญๆ อย่างเหล็กและคอนกรีตในกาตาร์ส่วนหนึ่งก็มาจากการนำเข้าผ่านซาอุดิอาระเบียเช่นกัน
+ อ่านเพิ่มเติม