ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ยังคงทำการสอบปากคำนายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี สามีของ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย พนักงานร้านคาราโอเกะ สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น หลังถูกพบกลายเป็นศพเสียชีวิตถูกหั่น 2 ท่อน บรรจุไว้ในถุงพลาสติกสีดำ ก่อนยัดใส่ไว้ในถังพลาสติกอีกชั้น ถูกทิ้งไว้ที่ป่าสาธารณะข้างทาง พื้นที่ บ.โนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น โดยทำการสอบปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้นายศักดิ์ชัย ออกมาพักผ่อนและรับประทานอาหาร
นายศักดิ์ชัย สามีผู้ตาย บอกว่า ได้คบหาดูใจกับผู้ตายเมื่อเดือน พ.ย. 2559 ก่อนที่จะแต่งงานกันในเดือน ก.พ. โดยรู้มาตลอดว่าผู้ตายนั้นเป็นคนที่ชอบคบหากับทอมและพูดคุยกับทอมหลายคน แต่เพราะรักจึงไม่ได้คิดอะไร แต่ด้วยที่ต้องทำงานหาเงินเพื่อสร้างครอบครัว จึงต่างคนต่างทำงานกัน ครั้งสุดท้ายที่พบกับภรรยาคือวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งผู้ตายได้เดินทางกลับมาจากชัยนาท เพื่อมาพักผ่อนด้วยกันที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนเองก็ไปรับ วันนั้นจำได้ว่ามีปากเสียงกันเพราะภรรยาขอไปหางานทำที่ขอนแก่น จึงห้ามไม่ให้เดินทางไปอีกเพราะกลัวจะมีปัญหาเรื่องคบหากับทอม ภรรยาจึงไม่พอใจไปขอกลับไปพักที่บ้านพ่อ ซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกันที่กรุงเทพฯ และวันที่ 6 พ.ค. ผู้ตายก็เดินทางมาที่ขอนแก่น
จากนั้นก็ไม่พบหน้ากันอีกเลย แต่ก็ติดต่อกันโดยตลอดทั้งทางโทรศัพท์และทางเฟชบุ๊ค โดยครั้งล่าสุดที่คุยกันคือวันที่ 22 พ.ค. เวลา 23.47 น. ซึ่งได้ติดต่อไปทางเฟชบุ๊คและได้โทรศัพท์คุยกัน ซึ่งผู้ตายก็ยังคงอ้อนกันตามปกติ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานก็ได้หลับไป จากนั้นก็พยายามติดต่อภรรยาอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ค.ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาทราบข่าวอีกครั้งเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมาว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
“ก่อนที่จะได้คุยกับแฟนสาวทางโทรศัพท์ในคืนวันที่ 22 พ.ค.นั้น พบว่าผู้ตายกำลังติดสายโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งโดยคุยกันนานกว่า 10 นาที แต่ด้วยความพยายามที่จะไม่คิดมาก และรักจึงไม่คิดอะไรมาก จนกระทั่งมาทราบอีกครั้งว่าภรรยาผมนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยผมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของภรรยา และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแบบตรงไปตรงมาเพื่อจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งในการสอบปากคำและให้การกับทางเจ้าหน้าที่ผมตอบแล้วในทุกคำถาม และมีเอกสารหลักฐานต่างๆยืนยันโดยตลอด ซึ่งผมได้นำมาชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่โดยทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปร่วมงานศพของภรรยาที่บ้านเกิดที่ชัยนาททันที”
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่ออีกว่า ตนมุ่งเป้าหรือคิดว่าคนเป็นคนลงมือก่อเหตุ เพราะคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ ส่วน "ป๊อปปี้" ตนทราบว่าคือทอมสาวที่มาติดพันและตนเองก็ทราบว่าภรรยานั้นคุยอยู่กับเพื่อนสาวคนนี้อยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย.มีทอมสาวชื่อ “เบน” ซึ่งอยู่ที่ จ.ชัยนาท นั้นได้มาติดพัน และได้มีการทำร้ายร่างกายภรรยาจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.หลายวัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ได้มีการแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.มโนรมย์ ซึ่งตนเองก็ไม่ปักใจว่าใครลงมือก่อเหตุ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่ก่อเหตุที่แท้จริงนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง กล่าวว่า ขณะนี้การสอบปากคำเสร็จสิ้นไปแล้ว 7 ปาก โดยเฉพาะสาวทอมที่ชื่อ ป๊อปปี้ และ สามีของผู้ตาย ไม่พบปมพิรุธแต่อย่างใด ทำให้การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ได้แกะรอยตามเส้นทางของผู้ตาย ตั้งแต่ภาพวงจรปิดที่พบที่ติดตั้งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ริม ถ.เหล่านาดี เขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ยังคงเห็นผู้ตายยืนคุยโทรศัพท์อยู่จากนั้นก็ไม่มีพบตัวอีกเลย แต่ชุดสืบสวนก็ยังคงแกะรอยต่อไปจนพบรถต้องสงสัย ที่คาดว่าจะรับตัวน้องแอ๋มไป
อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำสามีผู้ตาย นานกว่า 8 ชั่วโมง ได้ปล่อยตัวไปแล้ว ซึ่งสามีจะเดินทางไปร่วมศพของผู้ตาย ที่ จ.ชัยนาท ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม