พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการปฏิบัติการตรวจค้น โชว์รูมรถหรูที่หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร โดยการสำแดงราคาต่ำกว่าราคาความเป็นจริง ทั้ง 15 จุดตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่าน โดยสามารถอายัดรถหรูไว้ได้ทั้งสิ้น 166 คัน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านบาท ขณะที่หน่วยต่อต้านการโจรกรรมรถยนต์ สหราชอาณาจักร(อังกฤษ) ได้มีการประสานกับดีเอสไอว่ามีรถยนต์ถูกแจ้งหายไว้ที่สหราชอาณาจักร 42 คัน โดยดีเอสไอพบว่ามีจำนวน 10 คันอยู่ในประเทศไทย ซึ่งได้อายัดไว้แล้วทั้ง 7 คัน มีผู้ซื้อไปแล้ว 2 คันและอีกคันอยู่ในเขตฟรีโซนหรือเขตปลอดภาษีของกรมศุลกากร
อธิบดีดีเอสไอ เผยอีกว่า สำหรับมาตรการการตรวจสอบรถหรูที่เข้าข่ายความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ได้มีการขอราคารถหรูต่างๆจากประเทศผู้ผลิต เพื่อนำมาใช้เป็นมาตรฐานราคากลางในการตรวจสอบความผิดปกติของการนำเข้ารถหรู ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบการนำเข้าย้อนหลังไปอีก 5 ปี คาดว่าจะมีการตรวจสอบรถหรูที่เข้าข่ายความผิดอีกกว่าพันคัน
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับว่าที่ผ่านมากรมศุลกากรไม่เคยมีมาตรฐานราคากลางที่ใช้สำหรับการตรวจสอบความผิดปกติในการนำเข้า โดยที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจเอกสารการซื้อขาย จากผู้ซื้อและผู้ขายว่าตรงกันหรือไม่เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ทางดีเอสไอได้มาตรฐานราคากลางมาแล้ว การที่จะตรวจสอบการนำเข้ารถหรูโดยหลีกเลี่ยงภาษีก็จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประชาชนที่มีการซื้อรถหรูไป แล้วเกิดความไม่มั่นใจว่าได้รถยนต์ที่ซื้อไปถูกกฎหมายหรือไม่ สามารถมาแจ้งเจตนาของการซื้อรถกับเจ้าหน้าที่ได้ แต่หากพบมีความผิดดีเอสไอก็ยังอนุโลมให้ครอบครองรถไว้ก่อนได้โดยต้องทำหลักประกันและทำข้อตกลงว่า หากเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบรถ จะต้องนำมาให้ตรวจในทันที
ภาพ : มติชน
+ อ่านเพิ่มเติม