พบไอซีไทเมอร์ในจุดเกิดเหตุ รพ.พระมงกุฏ คาดเป็นระเบิดแสวงเครื่อง สั่งปิดอาคารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
logo ข่าวอัพเดท

พบไอซีไทเมอร์ในจุดเกิดเหตุ รพ.พระมงกุฏ คาดเป็นระเบิดแสวงเครื่อง สั่งปิดอาคารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

28,127 ครั้ง
|
22 พ.ค. 2560

จากเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อช่วงสายวันนี้ (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. และ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิด เนื่องจากพบแผงวงจร สายไฟ ถ่าน และเศษตะปู คนร้ายน่าจะมีการนำระเบิดใส่ภาชนะมาวางไว้ จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด ซึ่งมีรัศมีการทำลายล้างอยู่ที่ 2-3 เมตร และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล (เก่า) และหน้าโรงละครแห่งชาติหรือไม่ ขณะนี้ตรวจสอบเพียงแค่ทางกายภาพเท่านั้นต้องรอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยใช้เครื่องเสียก่อน

ทั้งนี้ จะมีการประชุมในช่วงเย็นวันนี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้นายทหารเวรทำการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้บาดเจ็บทั้งหมดเพื่อนำมาตรวจสอบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการก่อกวนหรือจงใจประสงค์ต่อชีวิต ทั้งนี้ ต้องประณามผู้ลงมือ ขนาดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีการวางระเบิดในโรงพยาบาล

            รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง โดยพบหลุมจากแรงระเบิด อีกทั้งยังพบไอซีไทเมอร์ สายไฟ มีลักษณะเดียวกับเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องวงษ์สุวรรณ ในจุดนั่งรอรับการรักษา ตรวจสอบพบเศษตะปูกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ผู้บาดเจ็บมีนายพลเกษียณอายุราชการ กว่า 10 คน ถูกนำตัวรับการรักษาพยาบาลโดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดตัวอาคารทั้งหมด 7 ชั้น เพื่อให้สุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบว่ามีระเบิดหลงเหลืออีกหรือไม่

 

ทั้งนี้ เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.ศรีราห์ จะประชุมติดตามความคืบหน้าและสั่งการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดที่ชั้น 7 พระมงกุฎฯต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง