รวบ 5 โจ๋ กราดยิงหน้าผับย่านบางพลี สารภาพหวังล้างแค้นคู่อริ ซึ่งเป็นเจ้าของผับ
logo ข่าวอัพเดท

รวบ 5 โจ๋ กราดยิงหน้าผับย่านบางพลี สารภาพหวังล้างแค้นคู่อริ ซึ่งเป็นเจ้าของผับ

24,194 ครั้ง
|
12 พ.ค. 2560
วันนี้ เวลา 05.00 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร บางพลี นำหมายจับศาลจังหวัดสมุดปราการ พร้อมกำลังทหาร กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา ก่อเหตุกราดยิงหน้าสถานบันเทิง เดอะ ชีค อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03:00 น. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ประกอบด้วย 1. นายวีรพล หรือแบงค์ บุญดุฉาว อายุ 23 ปี 2. นายมานะ หรือต่อ มุ่งเอื้อมกลาง อายุ 21 ปี 3. นายทศพล หรือบังรอน จรกา อายุ 27 ปี 4. นายกฤษดา หรือป้อม เจนจบ อายุ 20 ปี 5. นายสิทธิศักดิ์ หรือม่อน ชาภูมี อายุ 27 ปี โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านพักย่านตำบลบางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  อีกทั้งยัง ตรวจยึดของกลางและยาบ้า จำนวน 6,192 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 618.49 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ
 จากการสืบสวนพบว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุดึงกล่าว เกิดจากการที่กลุ่มของคนร้ายเคยทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงกันกับกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มเด็กมหาวงศ์" หลังจากนั้นกลุ่มเด็กมหาวงศ์ได้มาเปิดร้านอาหาร เดอะ ชีค  นายทศพล หรือบังรอน จรกา จึงได้จ้างวานใช้ นายวีรพล หรือแบงค์ บุญดุฉาว ให้เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงและให้นายมานะ หรือต่อ มุ่งเอื้อมกลาง เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นของนายสิทธิศักดิ์ หรือม่อน ชาภูมี ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายทศพลฯ ให้ยืมใช้มาก่อเหตุ และมีนายกฤษดา หรือป้อม เจนจบ เป็นผู้พาหลบหนีและนำอาวุธปืนไปโยนทิ้งน้ำบริเวณคลองสำโรง ได้ค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท พร้อมกับนายทศพลฯ ส่วนอาวุธปืนนั้นได้มาจากนายบังกิ๊ฟ ไม่ทราบชื่อนามสกุล ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลติดตาม 
ซึ่งในชั้นสอบสวน นายทศพล หรือบังรอน ยังคงให้การปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เจ้าหน้าตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวผู้ต้องสงสัยแน่นอน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน ให้การรับสารภาพทั้งหมด พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาควบคุมการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ด้วย พร้อมกล่าวด้วยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่คนร้ายก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง จึงได้กำชับให้ตำรวจในท้องที่เร่งสืบสวนเพื่อหาหลักฐานเอาผิดกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็ว จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งแม้ผู้ต้องหา 1 ราย จะให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่สามารถเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ได้ ส่วนสาเหตุมาจากความขัดแย้งของกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งอ้างว่าเคยถูกกลุ่มเจ้าของผับทำร้ายร่างกายมาก่อนจึงลงมือก่อเหตุล้างแค้นในครั้งนี้