หน.อุทยานหาดเจ้าไหม โต้ หนุ่มสวนยางอ้างเป็นแพะปมจับปลาดาวมาเซลฟี่ ถาม หากไม่ผิดจะออกมารับผิดทำไม
logo ข่าวอัพเดท

หน.อุทยานหาดเจ้าไหม โต้ หนุ่มสวนยางอ้างเป็นแพะปมจับปลาดาวมาเซลฟี่ ถาม หากไม่ผิดจะออกมารับผิดทำไม

8,125 ครั้ง
|
12 พ.ค. 2560

        เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 มูลนิธิอันดามัน จ.ตรัง นายเอกวัฒน์ หัสสาคร อายุ 35 ปี อาชีพกรีดยาง ชาวจังหวัดตรัง พร้อมภรรยา  ได้เดินทางเข้าพบ นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานมูลนิธิอันดามัน เพื่อปรึกษาร้องทุกข์และแถลงต่อสื่อมวลชน จ.ตรัง ตามที่เป็นข่าวกรณีมีการโพสต์ในโลกออนไลน์ เป็นการถ่ายภาพเซลฟี่หญิงสาวนั่งบนเรือหางยาวและถ่ายรูปกับปลาดาวทะเล และปลิงทะเลสีสันสวยงามกว่า 4 ตัว ที่ถูกจับขึ้นมาวางบนพื้นเรือ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม

            ด้านนายเอกวัฒน์ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้ออกมาจากทำพิธีละหมาดที่มัสยิดใกล้บ้าน โดยมีคนมาติดต่องานให้ทำ ตนจึงได้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนไปยังอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเข้าใจว่า ทางอุทยานจะให้ตนเองไปสมัครงานแต่เมื่อไปถึงปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยและกล่าวหาว่า ตนเป็นลูกเรือนำเที่ยวชื่อว่า โชควิมลทัวร์ ซึ่งได้ลงไปดำน้ำในทะเลจับปลาดาวขึ้นมา ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (3) ซึ่งระบุว่า ภายในอุทยานแห่งชาติห้ามมิให้บุคคลใดนำสัตว์ออกไป หรือทำประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการเปรียบเทียบปรับตนเอง เป็นเงินจำนวน 500 บาท แล้วปล่อยตัวกลับออกมา

             หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไป ทั้งสื่อออนไลน์ ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ โดยระบุว่า ตนเองคือผู้ต้องหาที่พานักท่องเที่ยวไปจับปลาดาว ตนจึงเกิดความเครียดและตัดสินใจเดินทางมาแถลงข่าวที่มูลนิธิอันดามัน โดยเปิดเผยความจริงต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นผู้ต้องหา และไม่ได้เป็นลูกจ้างขับเรือโชควิมลทัวร์ แต่อย่างใด นอกจากทำอาชีพกรีดยางจ้าง โดยไม่คาดคิดว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับครอบครัวมากขนาดนี้ พร้อมขอยืนยันว่าตนไม่ได้รับสินจ้างแต่อย่างใดจากการกระทำที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศักดา กะหริ พนักงานสอบสวน สภ.สิเกา เพื่อเปิดเผยความจริงที่เกิดขึ้น

           

            ทางด้านบุคคลใกล้ชิดกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม ก็ได้ออกมาสารภาพกับกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์นี้มีการจัดฉากอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีทั้งการติดต่อผู้สื่อข่าวจำนวน 2 คน ให้มาทำข่าว ที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หลังจากที่สามารถจับผู้ต้องหาที่นำปลาดาวไปให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพบนหัวเรือทัวร์ได้ เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนักท่องเที่ยวได้นำไปโพสต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอยู่ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งทุกอย่างตนรู้เห็นว่าเป็นการต้มคนดู แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งผู้สื่อข่าวทั้ง 2 คน ที่ได้ติดต่อให้ไปทำข่าว คงไม่ทราบจริงๆว่าผู้ต้องหาที่เป็นข่าวนั้นเป็นแพะ

            ทางด้าน นายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง เผยว่าหลังจากที่มีการแพร่ภาพดังกล่าว ทางผู้บริหาได้สั่งการทางอุทยานฯ ตามหาผู้กระทำผิด แล้วก็พบเรือดังกล่าวในวันแรก ก็ได้นำบุคคลมาแสดงตัว และยอมรับความผิด แล้วก็จ่ายค่าปรับไป แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวในโซโซเชียล ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ทางด้านผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ในรูปและเป็นคนที่โพสต์รูปภาพดังกล่าว ก็ได้มาแสดงตัวอีกครั้ง ว่าเป็นคนโพสต์เอง และก็ได้ดำเนินการทั้งหมดเอง เมื่อทางอุทยานฯ พบผู้กระทำผิดจึง ได้ทำการบันทึกประวัติและแจ้งความผิดไป และปรับเป็นเงิน 500 บาทไป เรื่องก็ได้ยุติไปแค่นั้น

            ส่วนเรื่องของ นายเอกวัฒน์ ที่อ้างว่าตัวเองเป็นแพะนั้น ได้ลงบันทึกประจำวันก็เป็นสิทธิของเขา ส่วนที่มากล่าวอ้างว่าแสดงตนเป็นผู้กระทำผิดในวันแรก ก็ไม่ทราบว่าทำไม ถึงมารับว่าตนเองกระทำผิด และได้มีการเปรียบเทียบปรับไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดลหุโทษ ส่วนเรื่องนี้ในส่วนผู้ใหญ่ใน กระทรวง,กรม ก็ไม่ได้มีการสอบถามอะไรมา แต่ทางอุทยานฯ ได้มีการรายงานให้ทราบเป็นเอกสาร ส่งไปทางกรมอุทยานฯแล้ว

ที่มา : มติชน