ตำรวจตามจับหนึ่งใน 2 ชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุอนาจารหญิงในวันไหลพัทยา รับทำไปเพราะเมาไม่รู้มีคนถ่ายคลิป
logo ข่าวอัพเดท

ตำรวจตามจับหนึ่งใน 2 ชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุอนาจารหญิงในวันไหลพัทยา รับทำไปเพราะเมาไม่รู้มีคนถ่ายคลิป

48,063 ครั้ง
|
21 เม.ย. 2560
     จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปกรณีของกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 2 คนกำลังทำอนาจารหญิงสาวรายหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคนเมาไม่ได้สติ ซึ่งในภาพคลิปดังกล่าวเป็นภาพหญิงสาวสวมกางเกงขาสั้นกำลังนั่งพิงประตูเหล็กหน้าสถานประกอบการแห่งหนึ่งไม่ระบุสถานที่ โดยชายวัยรุ่นรายหนึ่งกำลังจูบปากหญิงสาวอย่างดูดดื่ม ขณะที่อีกรายใช้มือลูบคลึงหน้าอกและล้วงอวัยวะเพศของหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นเวลานานหลายนาที โดยมีกลุ่มคนอีกส่วนหนึ่งถ่ายภาพและส่งเสียงตะโกนให้ไปทำกันไปในที่ลับตา ท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงการเล่นน้ำในเทศกาลวันไหลพัทยานั้น
 
     ล่าสุด เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัวนายจิรพัฒน์ กระแสเสถียร อายุ 26 ปี หนึ่งใน 2 ชายวัยรุ่นที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว 
 
     จากการสอบปากคำนายจิรพัฒน์ หรือโจ้ ให้การยอมรับว่า เป็นหนึ่งในบุคคลตามคลิปวีดีโอ และได้กระทำอนาจารด้วยการกอดจูบลูบคลำหญิงคนดังกล่าวจริง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.ของวันที่ 19 เม.ย.ต่อเช้าวันที่ 20 เม.ย.ที่บริเวณหน้าร้านชารีมาร์ บนถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้
 
     ซึ่งในช่วงเวลานั้นตนเองมีอาการมึนเมาอย่างหนัก จึงร่วมกับชายอีกคนที่เพิ่งรู้จักกันกระทำอนาจารหญิงสาวซึ่งมีอาการมึนเมาเช่นกัน โดยไม่รู้ว่ามีคนถ่ายคลิปไว้ และไม่ได้บังคับขืนใจแต่อย่างใด พอเห็นคลิปเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจนทำอะไรไม่ถูก และต้องกราบขอโทษประชาชนที่ตนเองทำเรื่องไม่เหมาะสมจนเมืองพัทยาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว
 
     ด้าน พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ส่วนผู้ต้องหาอีกคนทราบชื่อแล้วคือนายอิทธิพล สุมณฑา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนลูบคลำหน้าอกและล้วงอวัยวะเพศหญิงสาว ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตัว โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายจิรพัฒน์ หรือโจ้ ว่าร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่น อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
 
     ส่วนบุคคลที่ถ่ายคลิปแล้วนำมาเผยแพร่ก็ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เช่นกัน และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้