ผบก. น.4. สั่งดำเนินคดีตั้งแต่ชั้นผู้กำกับลงมาฐานบกพร่อง คดีตำรวจ สน.ประเวศ ทำกัญชาของกลางหาย 38 กก.
logo ข่าวอัพเดท

ผบก. น.4. สั่งดำเนินคดีตั้งแต่ชั้นผู้กำกับลงมาฐานบกพร่อง คดีตำรวจ สน.ประเวศ ทำกัญชาของกลางหาย 38 กก.

17,635 ครั้ง
|
18 เม.ย. 2560
     พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 แถลงความคืบหน้า กรณีที่ ร้อยตำรวจตรีสมปอง วงษ์ทิพย์ รองสารวัตร (ป้องกันปราบปราม) สถานีตำรวจนครบาลประเวศ ทำกัญชาของกลาง ที่ตำรวจสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ 191 นำจับกุมมาได้ รวมทั้งหมด 76 กิโลกรัม หายไปเกือบ 38 กิโลกรัม 
 
     ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจได้นำของกลาง เป็นกัญชา จำนวน 76 แท่งน้ำหนักประมาณ 76 กิโลกรัมเพื่อไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาในวันเดียวกันผู้ต้องหาได้รับยาเสพติดของกลางคืนในวันเดียวกันแต่ไม่ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ ต่อมาวันที่ 10 เม.ย. ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประเวศได้ตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหายังไม่ได้นำกัญชาของกลางมาส่งให้พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหานำกัญชามามอบให้คืน แต่ผู้ต้องหาได้นำมาคืนเพียง 41 กิโลกรัมซึ่งหายไปประมาณ 38 กิโลกรัม 
 
     โดย พลตำรวจตรี นันทชาติ ได้ชี้แจงว่า เบื้องต้น ได้เรียกผู้กำกับ สน. ประเวศ มาช่วยที่ตำรวจนครบาล 4 เพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผลปรากฎว่าได้สรุปสำนวนว่าผู้ต้องหามีความผิด ในฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด , เป็นเจ้าพนักงานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ซึ่งซับอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำการนั้น และเป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 
 
     ทั้งนี้ได้มีคำสั่งพักราชการ พร้อมดำเนินคดี ทุกข้อหา และนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องขอศาลอายาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อให้ศาลพิจารณาออกหมายขังไว้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สน. ประเวศ ฐานบกพร่องในหน้าที่ ตั้งแต่ชั้นผู้กำกับลงมา
 
     ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ระบุว่า อยากให้ประชาชนเข้าใจ ว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ย้ำพร้อมนำตำรวจไม่ดีออกจากระบบ และคาดว่าจะต้องรับโทษตามพยานหลักฐาน โดยยืนยันว่ามีความโปร่งใสในรูปคดี เพราะสำนวนไม่ได้ทำเอง ต้องส่งให้ ปปท. และแม้ว่าเป็นตำรวจก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะผู้ต้องหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงตำรวจ กว่า 2 แสนนายที่ตั้งใจทำงานเพื่อสังคม