ทหารควบคุมตัว ศรีสุวรรณ หลังยื่นหนังสือจี้รัฐบาล ตรวจสอบปมหมุดคณะราษฎร
logo ข่าวอัพเดท

ทหารควบคุมตัว ศรีสุวรรณ หลังยื่นหนังสือจี้รัฐบาล ตรวจสอบปมหมุดคณะราษฎร

21,386 ครั้ง
|
18 เม.ย. 2560
เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้ทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ติดตามหาหมุดคณะราษฎรบริเวณลานพระบรมรูปที่หายไปก่อนหน้านี้ แต่ปรากฏว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจากกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ประมาณ 6-7 นาย ควบคุมตัวจากศูนย์บริการประชาชน ไปยังกองบัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยหนึ่งในผู้ที่อยู่เหตุการณ์ระหว่างนายศรีสุวรรณถูกคุมตัวได้เล่าว่า เมื่อนายศรีสุวรรณ มาถึงศูนย์บริการประชาชน ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารมาเชิญตัวขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่บริเวณด้านหลังศูนย์บริการประชาชน เพื่อไปยังกองพลที่1รักษาพระองค์ ซึ่งตนเองจึงตัดสินใจขอขึ้นรถตู้คันดังกล่าวไปด้วย และเมื่อขับรถออกไประยะหนึ่งทหารได้เชิญตัวตนและคนติดตามนายศรีสุวรรณอีกคนหนึ่งลงจากรถโดยให้เงินจำนวนคนละ 100 บาท เพื่อเป็นค่ารถเดินทางกลับ โดยระหว่างในการถูกเชิญตัวนายศรีสุวรรณ ไม่ได้มีการพูดอะไร แต่มีสีหน้ากังวล และยอมทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่แต่โดยดี
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสาร ที่นายศรีสุวรรณ จะยื่นถึงนายกฯ นั้น มีเนื้อหาสรุปว่า การเปลี่ยนหมุดดังกล่าวอาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายอาญา ฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ จึงขอให้นายกฯสั่งตรวจสอบ ว่าบุคคลหรือหน่วยงานใดที่เข้าไปเปลี่ยนแปลง และสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหมุดเดิม หรือสร้างใหม่ในรูปแบบและข้อความเดิม กลับไปไว้ที่เดิม หากไม่ดำเนินการใดๆตามคำร้องนี้ สมาคมฯขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่อไป
 
ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณได้ออกแถลงการณ์เรื่องขอทวงคืนหมุดคณะราษฎร ระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่ามีการเปลี่ยนหมุดคณะราษฎรบริเวณลานหน้าพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นหมุดที่ทำขึ้นเพื่อสะท้อนเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย อันเนื่องในเหตุการณ์การอภิวัฒน์สยาม 2475 ซึ่งพระยาพหลพลพยุหเสนา หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร ได้ยืนอ่านประกาศคณะฉบับที่ 1 เสร็จสิ้นในเวลาย่ำรุ่งของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดยภายในหมุดเดิมมีข้อความว่า “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ เพื่อความเจริญของชาติ”
 
แม้หมุดดังกล่าวจะเคยถูกอำนาจรัฐสั่งรื้อสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองของชาติไทยไปในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ก็ตาม แต่เมื่อพ้นยุคสมัยไปแล้วเลขาธิการรัฐสภาในสมัยนายประเสริฐ ปัทมสุคนธ์ ได้ให้กรุงเทพมหานครเอาหมุดดังกล่าวกลับมาประดิษฐานดังเดิมอีกครั้ง
 
การที่มีบุคคลหรือหน่วยงานใดได้กระทำการอันพยายามบิดเบือนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการจัดทำหมุดขึ้นมาใหม่ โดยมีข้อความรอบนอกว่า “ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง” ส่วนข้อความในวงด้านใน ระบุว่า “ขอประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาชนสุขสันต์ หน้าใส เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน” และนำไปสับเปลี่ยนหมุดคณะราษฎรเดิมนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอาญา และขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 57(1) ประกอบมาตรา 78 ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม จะต้องเร่งดำเนินการนำหมุดคณะราษฎรดังกล่าวกลับมาประดิษฐานยังที่เดิม หากไม่ดำเนินการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญจะใช้สิทธิตามมาตรา 51 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไปแน่นอน