หนุ่มก่อสร้างวัย 29 น้อยใจถูกจับคดีบุกรุกบ้านตนเอง ผูกคอตายในห้องขัง สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
logo ข่าวอัพเดท

หนุ่มก่อสร้างวัย 29 น้อยใจถูกจับคดีบุกรุกบ้านตนเอง ผูกคอตายในห้องขัง สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

55,696 ครั้ง
|
04 เม.ย. 2560
     ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้รับแจ้งจากสิบเวรว่า มีผู้ต้องหาฆ่าตัวตายภายในห้องควบคุม สภ.ท้ายเหมือง โดยที้เกิดเหตุเป็นห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาภายในสถานีตำรวจ พบร่างนายทน จินดา อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างก่อสร้าง ผูกคอกับเชือกไนล่อนเป็นเชือกตะกรุดห้อยเอว แขวนไว้กับลูกกรงเหล็กห้องควบคุมตัว จึงรีบตัดเชือกเพื่อช่วยชีวิตและประสานหน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ท้ายเหมืองชัยพัฒน์ แต่ต่อมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว
 
     เบื้องต้นสอบสวนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายทน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ตามหมายศาลจังหวัดพังงา และเตรียมส่งศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายในวันที่ 4 เม.ย.เวลา 10.00 น. โดยทางญาติได้เข้าเยี่ยมและพูดคุยกับนายทน เมื่อเวลา 08.00 น. พร้อมขอประกันตัวในชั้นศาล เมื่อนัดแนะเสร็จสิ้นทางญาติจึงได้เดินทางไปศาลล่วงหน้า
 
     ระหว่างนั้น เมื่อเปิดดูกล้องวงจรปิดภายในห้องควบคุมตัวพบว่า นายทน ใช้เชือกไนล่อนห้อยตะกรุดของขลังผูกคอแขวนกับซี่กรงเหล็กในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อฆ่าตัวตาย และไม่กี่นาทีจากนั้นสิบเวรของ สภ.ท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือและตะโกนเรียกพนักงานสอบสวนเวรเข้าช่วยเหลือและประสานหน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ท้ายเหมืองชัยพัฒน์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
 
     ด้าน น.ส.อัญญ์พิชญ์ จินพัฐธนัญ พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า สาเหตุที่น้องชายถูกจับกุมเนื่องจากถูกพี่สาวคนละพ่อแจ้งจับเรื่องที่ผู้ตายคัดค้านการขายสิทธิ์บ้านภายในซอยทับยาง-ท่าซอ จนเกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว และแจ้งความบุกรุกบ้าน จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ต้องหลับนอนบ้านเพื่อนและเครือญาติ จนผู้ตายถูกจับกุม ตนเองเตรียมเอกสารเพื่อประกันตัวโดยทางเจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวในชั้นศาล จึงเข้าเยี่ยมน้องชายและตกลงกันเรียบร้อยว่าไปศาลไม่นานจะได้ออกมาสู้คดี ขณะพูดคุยกับน้องชายในห้องเยี่ยมของโรงพักน้องชายพูดว่า “ไม่อยากไปศาล” แต่ตนไม่เอะใจว่าน้องชายจะคิดสั้น แต่ก่อนหน้านี้น้องชายเคยกิน ยาฆ่าหญ้า เพื่อฆ่าตัวตาย ครั้งหนึ่งแล้วก่อนที่จะถูกจับกุม
 
     พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.สภ.ท้ายเหมือง  กล่าวว่า คดีที่นายทน ถูกดำเนินคดี ตนเองเห็นว่าไม่ร้ายแรงมาก และเป็นเรื่องครอบครัวไม่น่าจะเกินเลยถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวตาย อีกทั้งการคุมเข้มของห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาเป็นไปอย่างรัดกุมเจ้าหน้าที่จะตรวจค้นก่อนเข้าห้องควบคุม ไม่ให้นำเข็มขัด ของมีคม และสิ่งที่คาดว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ต้องหาและผู้อยู่ในห้องควบคุม มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทุก 2 ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิด และก่อนถึงเวลานำส่งศาลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางญาติและเจ้าหน้าที่ได้เข้าพูดคุยเพื่อเข้าใจขั้นตอน เพียงถึงศาลจังหวัดพังงาทางญาติก็พร้อมที่จะประกันตัว จึงไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวได้ แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วก็ขอแสดงความเสียใจ พร้อมกับรายงานผู้บังคับบัญชา ตั้งกรรมการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ความรับผิดชอบดังกล่าวตามขั้นตอนแล้ว