ทัพเรือภาค 3 สั่งปรับชายหาดป่าตองให้เป็นปกติ หลังมีการก่อเตียงทรายหวั่นพื้นที่อื่นเลียนแบบ
logo ข่าวอัพเดท

ทัพเรือภาค 3 สั่งปรับชายหาดป่าตองให้เป็นปกติ หลังมีการก่อเตียงทรายหวั่นพื้นที่อื่นเลียนแบบ

46,090 ครั้ง
|
23 ธ.ค. 2559
     พล.ร.ต.พิสัย สุขวัน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาในการจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด และการแก้ไขการบุกรุกที่ดินสาธารณะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าของการจัดระเบียบ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการของแต่ละท้องถิ่น หลังจากที่มีภาพเตียงทรายปรากฏตามสื่อออนไลน์ บริเวณชายหาดป่าตอง โดยมีข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
 
     พล.ร.ต.พิสัย สุขวัน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานด้านการข่าวและการลงตรวจพื้นที่ของหมวดรักษาความสงบเรียบร้อยทัพเรือภาคที่ 3 พบว่าเริ่มมีการฝ่าฝืนระเบียบ โดยมีการลักลอบนำร่ม เตียง มาให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนใช้ร่วมกัน รวมทั้งปรากฏข้อมูลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการก่อทรายเป็นเตียงให้บริการนักท่องเที่ยวบริเวณหาดป่าตอง และเริ่มที่จะมีการลอกเลียนแบบตามพื้นที่อื่นๆบ้างแล้ว เกรงจะมีผลกระทบในวงกว้าง จึงได้จัดให้มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน
 
     ทั้งนี้ ได้ให้ตัวแทนของแต่ละอำเภอและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มีพื้นที่ชายหาดซึ่งจัดเป็นชายหาดจัดระเบียบจำนวน 9 ชายหาด อาทิ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดในทาน หาดในยาง ชี้แจงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาภาพรวมสรุปได้ว่า หลังจากที่มีการดำเนินการจัดระเบียบมาระยะหนึ่งพบว่า เริ่มมีปัญหาการฝ่าฝืนเกือบทุกพื้นที่ในลักษณะที่แตกต่างกันไป 
 
     ด้านนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ ชี้แจงว่า การก่อเตียงทรายนั้นมีการทำมานานแล้วตั้งแต่การจัดระเบียบชายหาดเมื่อปี 2557 หลังจากที่คณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดได้แบ่งพื้นที่ 10% เพื่อเป็นการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลบร้อน จึงอนุญาตให้มีร่มและเบาะได้ในโซน 10% แต่ไม่อนุญาตให้มีเตียง โดยช่วงแรกๆ จะมีการก่อทรายสูงไม่มาก แต่มาในระยะหลังมีการจัดทำเป็นรูปเตียงชัดเจน
 
     ในฐานะของผู้ปฎิบัติมองว่า การให้มีเฉพาะร่มกับเบาะไม่น่าจะเป็นการจัดระเบียบที่เหมาะสมที่สุด เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีปัญหาตลอด เนื่องจากเกิดความไม่เข้าใจในเรื่องการปฏิบัติ และการที่มีภาพของเจ้าหน้าที่ ลงไปไล่จับนักท่องเที่ยวหรือผู้ประกอบการก็ไม่น่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่น่าจะเป็นการทำลายมากกว่า ซึ่งเหตุที่มีการขอตั้งเตียง เพราะการนำเบาะวางบนทรายจะมีปัญหาเมื่อลมพัด และเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในการลุกนั่ง โดยเฉพาะผู้สูงวัย ในส่วนนี้ก็มีความเข้าใจผู้ประกอบการที่พยายามหาวิธีการเพื่อบริการนักท่องเที่ยว ในฐานะของท้องถิ่นตนมองว่า เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว น่าจะมีการทบทวนเรื่องอนุญาตให้ตั้งเตียงได้ โดยเฉพาะในโซน 10% แต่ด้วยท้องถิ่นไม่มีอำนาจ จึงต้องเสนอผ่านทางคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการก่อเตียงทราย เพราะไม่สวยงาม และอาจเกิดอันตรายกับผู้ที่ไปใช้ชายหาดในช่วงเย็นสะดุดล้มได้ จึงอยากให้ชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้มากน้อยเพียงใด ส่วนแนวทางในการปักหมุดเพื่อบอกแนวเขตที่ชัดเจนนั้นขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง
 
     อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการนำเสนอปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ปัญหาของแต่ละท้องถิ่นแล้ว ประธานในที่ประชุมสรุปว่า จะได้รวบรวมข้อเสนอของแต่ละท้องถิ่นที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์โดยขอให้ตั้งเตียงในโซน 10%ไปหารือและขอมติจากคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง ส่วนในระยะนี้ก็ขอให้ทางท้องถิ่นไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้ปรับสภาพทรายที่มีการก่อเป็นรูปเตียงให้กลับสู่สภาพเดิมก่อน คาดว่าน่าจะมีการประชุมร่วมหารืออีกครั้งประมาณกลางเดือนมกราคม 2560

ข่าวที่เกี่ยวข้อง