วอนช่วยเหลือหญิงวัย 28 ป่วยมีอาการใบหน้าบวม แพทย์ระบุเป็นมะเร็งต้องผ่าตัดแต่เสียลูกตา  เจ้าตัวโพสต์ขอมีงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว
logo ข่าวอัพเดท

วอนช่วยเหลือหญิงวัย 28 ป่วยมีอาการใบหน้าบวม แพทย์ระบุเป็นมะเร็งต้องผ่าตัดแต่เสียลูกตา เจ้าตัวโพสต์ขอมีงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว

253,094 ครั้ง
|
14 ธ.ค. 2559
     จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Jenie Yoo ได้โพสต์ภาพของตนเอง เผยให้เห็นบริเวณใบหน้ามีลักษณะบวมเปล่ง พร้อมระบุข้อความว่า "หากไปสมัครงานจะมีใครรับเข้าทำงานหรือไม่" ซึ่งหลายคนที่เห็นโพสต์ดังกล่าว จึงเข้าไปแสดงความเห็นในลักษณะติดตลกว่า เป็นการตกแต่งแอพขึ้นมาล้อเล่นเท่านั้น แต่ส่วนมากเมื่อเข้าถึงการโพสต์ภาพต่างๆ ก็พบว่าเธอป่วยจริงๆ จนทำให้ใบหน้าผิดปกติ ซึ่งสภาพก่อนจะป่วยนั้นเป็นคนหน้าตาดี 
 
     โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุรายะลเอียดอาการป่วยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2558 ที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากเลิกงานแล้วรับประทานข้าว มีอาการปวดฟันด้านหน้า แฟนชาวเกาหลีได้พาไปหาหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ ปรากฎว่าผลการตรวจพบก้อนเนื้อที่แก้มด้านขวา อาจเป็นมะเร็ง ตอนนั้นตกใจและเสียใจมาก จึงตัดสินใจรีบกลับไปรักษาที่เมืองไทย เนื่องจากที่ประเทศเกาหลีมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เมื่อถึงไทยหมอบอกว่ามีกระดูกงอกชนิดร้ายแรงที่โหนกแก้มด้านขวาจมูก เป็นมะเร็งกระดูก หรือโรค ออสตีโอซาร์โคม่า วิธีการคือต้องผ่าตัดแต่ต้องนำดวงตาออกด้วย จึงตัดสินใจไม่ผ่าตัด ขอกลับไปรักษาด้วยคีโม และกลับมารักษาอาการด้วยยาสมุนไพรที่บ้านเกิดใน จ.สกลนครนั้น
 
     ล่าสุด เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์ ทราบชื่อคือ น.ส.รัตนาภรณ์ กัลยาไสย หรือ เจนี่ อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านพ่อและแม่ใน ม.5 บ.จำปา ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร  โดยพ่อและแม่มีอาชีพกรีดยางพารา มีรายได้เพียงวันละ 200 บาท ส่วนบ้านที่อาศัยมี 2 หลัง เป็นบ้านไม้ยกสูง 1 หลัง ส่วนอีกหลังเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพยังไม่แล้วเสร็จ
 
     โดย น.ส.รัตนาภรณ์ เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกคนเดียวของพ่อและแม่ โดยมีบุตรแล้วอายุ 11 ปี  ก่อนป่วยใช้ชีวิตกับแฟนที่เกาหลี เพื่อทำงานส่งเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่ และให้สร้างบ้านของตนเอง หวังกลับมาอยู่ในเมืองไทยในอนาคต แต่ปรากฏว่าต้องล้มป่วยลงก่อน ทำให้บ้านที่สร้างไม่แล้วเสร็จ ไม่มีคนหาเลี้ยงพ่อแม่ จึงตัดสินใจโพสต์เฟสบุ๊ค เพื่อบอกเล่าเรื่องราวดังกล่าว เพื่อเตือนทุกคนให้ดูแลสุขภาพ เพราะไม่รู้ว่าจะป่วยลงเมื่อไร ที่สำคัญคือจะสู้กับโรคแบบนี้อย่างไร 
 
     ตนยอมรับว่าทรมานมาก จากอาการปวดแสบปวดร้อนจากโรค เหมือนเอามือลนไฟเวลามีอาการป่วย แต่ละเดือนตนต้องฉายคีโมที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เดือนละ 2 ครั้ง มีค่าใช้ครั้งละประมาณ 5,000 บาท 1 เดือนต้องมีค่าใช้จ่าย 10,000 บาท แต่ครอบครัวอยากจน รู้สึกสงสารพ่อแม่ ที่ต้องกรีดยางหาเงินเลี้ยงครอบครัวและดูแลตน บางครั้งต้องหยิบยืมชาวบ้านหากเงินไม่พอไปหาหมอ ตนก็ไม่อยากนิ่งดูดาย แม้ว่าร่างกายตอนนี้ไม่สมบูรณ์ เพราะดวงตาซ้ายมีอาการพร่ามัว จึงตัดสินใจโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว เผื่อว่าจะมีคนมาว่าจ้างให้ทำงาน 
 
     โดยตอนนี้แม่ของตนต้องมาล้มป่วยพร้อมกับต้องฟอกไต และมีค่าใช้จ่ายมากเช่นกัน บางทีแอบคิดว่า เหตุใดเธอและแม่ต้องล้มป่วยพร้อมกันซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ส่วนประเด็นข้อสงสัยว่าแฟนตนเองที่เกาหลีทำไมไม่มาดูแล ตนติดต่อกันอยู่ตลอด แต่แฟนของตนต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ประเทศเกาหลีเหมือนกัน เพราะเป็นลูกชายคนเดียว ถามว่ารู้สึกท้อไหม ก็ท้อบ้างแต่เราจะไม่อ่อนแอ เราต้องสู้หวังว่าจะหาย ซึ่งตนก็อยากผ่าตัดแบบไม่ให้เอาดวงตาออก เพื่อจะได้เป็นเสาหลักดูแลครอบครัว ตนหวังว่าจะมีผู้ใจบุญมาช่วยรักษาตน เพราะตนอยากเลี้ยงดูพ่อแม่เป็นอย่างมาก
 
 
สำหรับผู้มีน้ำใจอยากช่วยเหลือ ธ.กสิกรไทย 005-8-81325-7 ชื่อบัญชี นส.รัตนาภรณ์ กัลยาไสย สาขาสุขุมวิท11.