"ทนายเดชา" แจงกรณีทัวร์ลงเฟซบุ๊ก หลังรับเป็นทนายให้ "ครูจุ๋ม" ยันทุกคนต้องมีทนายตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
logo TERO HOT SCOOP

"ทนายเดชา" แจงกรณีทัวร์ลงเฟซบุ๊ก หลังรับเป็นทนายให้ "ครูจุ๋ม" ยันทุกคนต้องมีทนายตามสิทธิขั้นพื้นฐาน

3,347 ครั้ง
|
05 ต.ค. 2563

-นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ถึงกรณีที่ตนเองไปเป็นทนายความให้กับครูจุ๋ม กับโรงเรียนสารสาสน์ โดยชี้แจงว่า ที่ตนรับว่าความแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เป็นที่ปรึกษาให้กับโรงเรียนในการต่อสู้คดี ทั้งประเด็นเรื่องของการรับผู้ไม่มีใบอนุญาตมาเป็นบุคลากร และกรณีครูพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายนักเรียน ทั้งทางแพ่ง อาญา และที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเข้าไปดูในโรงเรียนก็พบว่ามีการแก้ไขตามที่มีการเรียกร้องแล้ว ทั้งเรื่องกล้องวงจรปิด และ กรณีใบอนุญาตต่างๆ และอีกส่วน เป็นการรับปรึกษาให้กับครูจุ๋ม และครูพี่เลี้ยงรวม 13 คน ซึ่งแยกเป็นอีกส่วน ซึ่งในส่วนที่ครูถูกผู้ปกครองแจ้งความร้องทุกข์ ในส่วนของครูจุ๋ม ตนก็แนะนำให้รับสารภาพ ไม่ต้องมีข้อแก้ต่างใดๆ แต่ในส่วนที่ครูจุ๋มถูกผู้ปกครองทำร้ายร่างกายในวันแถลงข่าว เพราะเป็นสิทธิของครูจุ๋มที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดี

-โดยแนวทางการต่อสู้หลังจากนี้ ก็มีการวางแผนไว้แล้ว รวมถึงประเด็นของโรงเรียนที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้น พบว่าไม่ได้มีเฉพาะโรงเรียนแห่งนี้ แต่หลายแห่งก็ไม่มี อยู่ระหว่างศึกษาเกี่ยวกับการผ่อนผันที่พบว่ามีมานาน

-ส่วนกรณีครูที่ถูกกล่าวหา หากคนใดความผิดชัดเจนก็ว่าไปตามกระบวนการขั้นตอน แต่ตนมองว่ามีบางคนก็ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม อย่างกรณีการถูกกล่าวหาว่า งดเว้นไม่กระทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองเด็กๆ ซึ่งต้องมาดูที่พยานหลักฐาน

-ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์ หรือ จำเลย ล้วนแต่ต้องมีทนายความช่วยว่าความ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคดี แม้แต่แพทย์ก็ยังต้องรักษาคนร้าย เช่นเดียวกับทนายความ ที่เมื่อมีการติดต่อมา ก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ ซึ่งตนไม่ได้รับความมาเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือ เปลี่ยนดำให้เป็นขาว เพียงแต่อะไรผิดก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน และการที่ถูกต่อว่าในเพจเฟสบุ๊กตนไม่กลัวอะไร

-รวมถึงที่มีการกล่าวหาว่าตนเองรับงานเพราะต้องการเงินนั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะตนมีฐานะทางการเงิน แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อทางโรงเรียนติดต่อมาแล้วตนไม่รับค่าจ้าง เพราะทนายความเอกชน ว่าความโดยไม่รับค่าจ้างไม่ได้ เพราะผิดมรรยาททนายความ ซึ่งจากกรณีที่มีทนายความหญิงออกมาบอกว่าจะว่าความให้นั้น หากไม่รับ ก็ถือว่าผิดมรรยาททนายความ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง