แม่ร้อง ลูก 3 ขวบถูกครูปิดประตูหนีบนิ้วขาด หวั่นลูกเสียโอกาสทำงานในอนาคต
logo ข่าววันใหม่

แม่ร้อง ลูก 3 ขวบถูกครูปิดประตูหนีบนิ้วขาด หวั่นลูกเสียโอกาสทำงานในอนาคต

ข่าววันใหม่ : ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นางพิมญาดา รุซโซ่ว์ อายุ 37 ปี ได้นำหลักฐานภาพถ่ายและใบรับรองแพย์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทาง ร.ต.อ. ครูปิดประตูหนีบนิ้ว,ประตูหนีบนิ้วขาด,เชียงราย,พิมญาดา รุซโซ่ว์,น้องเอเค

913 ครั้ง
|
01 ต.ค. 2563
ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นางพิมญาดา รุซโซ่ว์ อายุ 37 ปี ได้นำหลักฐานภาพถ่ายและใบรับรองแพย์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทาง ร.ต.อ.อิทธิพล ฉลาดธัญญกิจ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารของโรงเรียนอนุบาลพรรณี ตั้งอยู่หมู่ 9 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยนางพิมญาดาผู้เสียหายระบุว่าบุตรชายของตนชื่อว่า ด.ช.อฆิฬาพัจฎ์ รุซโซ่ว์ หรือน้องเอเค อายุ 3 ปี 3 เดือนซึ่งเคยเรียนอยู่ชั้นเตรียมอนุบาลของโรงเรียนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากประตูภายในโรงเรียนหนีบตรงปลายนิ้วของมือซ้าย ซึ่งเมื่อเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ทางแพทย์ก็ยืนยันว่าปลายนิ้วชี้ด้านซ้ายขาดถาวรโดยเล็บสั้นลง 50% จนนิ้วสั้นลงเล็กน้อย
 
 
นางพิมญาดา กล่าววว่าเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้โทรศัพท์ถึงตนแจ้งว่าน้องเอเคประสบเหตุบาดเจ็บที่นิ้วและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วจึงขอให้ไปพบกันที่โรงพยาบาล ตนจึงรีบไปดูก็พบว่าแพทย์ได้ให้การรักษาอาการบาดเจ็บที่นิ้วแล้วโดยได้พันผ้าเอาไว้ให้เรียบร้อย เมื่อสอบถามสาเหตุก็ทราบจากทางผู้บริหารโรงเรียนว่าเกิดจากประตูไม้ภายในห้องของโรงเรียนหนีบขณะที่น้องเอเคกำลังจะนำกล่องนมไปทิ้งถังขยะนอกห้องก่อนจะเข้านอน ซึ่งเบื้องต้นตนก็ไม่ได้ติดใจมากนักโดยหลังจากนั้นก็พาบุตรชายกลับบ้านตามปกติแต่ปรากฎว่าหลังจากนั้นเพียง 1 วันบุตรชายก็มีอาการจนร้องไห้งอแงมากขึ้น และผ้าพันแผลก็หลุดออกมาทำให้เห็นถึงบาดแผลว่าร้ายแรงว่าที่คิดโดยปลายนิ้วได้หายไปทำให้ตนเสียใจอย่างมาก
 
 
ต่อมา ได้ไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแจ้งว่าแผลที่เกิดขึ้นกับบุตรชายร้ายแรงกว่าที่คิดเอาไว้ และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งทางโรงเรียนก็ยอมให้ดูปรากฎว่าเป็นภาพครูพี่เลี้ยงเป็นผู้หญิงอยู่ในห้อง 2 คนกำลังเตรียมให้เด็กๆ เข้านอน แต่น้องเอเคได้นำกล่องนมไปทิ้งถังขยะนอกห้องแต่ขณะที่มือข้างซ้ายจับอยู่กับขอบประตู ได้เห็นภาพครูพี่เลี้ยงปิดประตูที่เป็นไม้อย่างแรงจนขอบประตูทับกับนิ้วได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นตนก็รู้สึกผิดหวังอย่างมากเพราะเหตุการณ์ไม่ใช่เหตุลมพัดตามที่บอกแต่เกิดจากการปิดประตู จึงได้สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้รับการขอโทษพร้อมแสดงความเสียใจว่าไม่ได้ตรวจดูเหตุการณ์อย่างละเอียดและพร้อมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทุกอย่าง อย่างไรก็ตามช่วงนั้นตนก็เสียน้ำใจไปแล้วเพราะไม่ได้บอกความจริงมาตั้งแต่ต้น
 
 
ทั้งนี้ นางพิมญาดา ทางผู้เสียหายอยากได้รับการเยียวยา เมื่อสอบถามไปยังทางโรงเรียนก็มีการรับว่าจะเยียวยาให้ทางตนจึงยื่นข้อเสนอไปว่าขอค่าเสียหายจำนวน 400,000 บาท แต่ทางโรงเรียนต่อรองเหลือเพียง 100,000 บาทซึ่งตนเห็นว่าไม่เพียงพอล่าสุดก็ได้เจรจากันที่จำนวน 350,000 บาท โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าจะติดต่อมาในช่วงเที่ยงของวันที่ 30 ก.ย.นี้แต่ปรากฎว่าเงียบหายไปเมื่อตนใช้ไลน์สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนก็มีการอ่านแต่ไม่ตอบกลับจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
 
 
ด้านพนักงานสอบสวนได้สอบถามข้อมูลและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการแจ้งความ จากนั้นจะประสานไปยังแพทย์เพื่อขอหลักฐานผลการชันสูตรบาดแผล และข้อมูลการรักษา เพื่อจะนำกลับมาพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำได้อย่างไร ส่วนในอนาคตหากคู่กรณียังประสงค์จะเจรจากันเรื่องค่าสินไหมทดแทนอีกครั้งก็จะมีการจัดทำเป็นบันทึกข้อตกลงกันได้ต่อไป
 
 
 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/iq8SRSfgj54