กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ ‘โค๊ก เชสเตอร์’ ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอนาทีเปลวเพลิงจากการเผาอ้อย ที่กำลังลุกโชน และลากลามเป็นบริเวณกว้างดูไม่ต่างกับทะเลเพลิง เผาไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งไฟได้ลุกลามใกล้ชุมชน บ้านมาบสมอ ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งบริเวณที่ไฟกำลังลุกไหม้ มีบ้านพักของชาวบ้านอยู่ทางด้านหน้าจำนวนเกือบ 10 หลัง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณ 14 บ้านมาบสมอ ต.ท่าโรง อ.วิเชียร จ.เพชรบูรณ์ เพื่อพบกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกการณ์ เพลิงไหม้ป่าอ้อย เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนปลูกติดกันอยู่ 6 หลัง ด้านหน้าติดถนนหลัก สายวิเชียรบุรี - โคกปรง ด้านหลังมีถนนซอยกั้นอยู่ โดยมีแปลงอ้อยขนาดใหญ่ อยู่ติดกับชุมชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรี ได้เตรียมเรียกเจ้าของไร่อ้อยดังกล่าว มาพบ เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข
จากการสอบถามนายบำรุง มีเดช ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า การจุดเผาอ้อย มีเป็นประจำทุกปี ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นไฟให้ป่าอ้อยโหมแรงมาก ชาวบ้านละแวกดังกล่าว ต้องพากันหนีออกไปอยู่อีกฝั่งของถนน เพราะเปลวเพลิงมีความร้อนมาก นี่ยังไม่พูดถึงเขม่าใบอ้อยด้วย ตอนเกิดเหตุไม่เห็นคนจุด อยากขอร้องให้เกษตรกร ผู้ปลูกอ้อย ไม่เผาอ้อยเพราะเขม่าใบอ้อยที่ปลิวเข้าบ้านสร้างความเดือดร้อน
ขณะเดียวกัน ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าอ้อย และลุกลามเข้าสวนมะม่วงของชาวบ้าน นอกจากนี้ควันไฟยังลอยข้ามทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี - หล่มสัก ทำให้การสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลสามแยก ก็ได้นำรถน้ำมาทำการควบคุมเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง โดยใช้เวลา ราว 3 ชั่วโมงเศษ ในการควบคุมเพลิง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจยันเจ้าของไร่อ้อยรายนี้ต้องถูกจับดำเนินคดี ส่วนผลการจับกุมผู้กระทำผิดเผาป่าอ้อย จนถึงขณะนี้ มีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ไปแล้ว 5 ราย