“สุรพงษ์” ฟังคำพิพากษาคดีคืนพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” เตรียมหลักทรัพย์ 10 ล้านใช้ประกันตัว
logo ข่าวอัพเดท

“สุรพงษ์” ฟังคำพิพากษาคดีคืนพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” เตรียมหลักทรัพย์ 10 ล้านใช้ประกันตัว

ข่าวอัพเดท : นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล,สุรพงษ์ ทักษิณ,สุรพงษ์ คดีพาสปอร์ต,สุรพงษ์ รมว.ต่างประเทศ,สุรพงษ์ รัฐมนตรี ต่างประเทศ,ศาลตัดสิน คดี สุรพงษ์

2,505 ครั้ง
|
19 มิ.ย. 2561
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 
 
กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติต้นเดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) ซึ่งนายสุรพงษ์ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาทขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
 
โดยวันนี้นายสุรพงษ์มีอาการอ่อนเพลีย ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินเข้ามาที่ศาลฯ และพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่าแม้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงแต่มีกำลังใจดี วันนี้เตรียมหลักทรัพย์มาเตรียมสำหรับการประกันตัวไว้จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่ทุกอย่างตรงไปตรงมา และในกระบวนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี มีข้าราชการและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ
 
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมาย เปิดเผยว่า แม้จะมั่นใจในข้อต่อสู้ แต่ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อมาประกันตัวเพิ่มเติมในวงเงินเพิ่มอีก 10 ล้านบาทประกอบด้วยเงินในบัญชีและโฉนดที่ดินเพื่อต่อสู้คดี เชื่อว่าคำให้การมีน้ำหนักเพียงพอที่องค์คณะศาลจะใช้เป็นข้อมูลที่ดุลยพินิจ วินิจฉัยอย่างเที่ยงธรรม หากในกระบวนการศาลวินิจฉัยไปในทางลบ ก็เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีตามกฎหมายใหม่ และเห็นว่าการลงมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการถอดถอนนายสุรพงษ์ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะไม่มีผลต่อดุลยพินิจของศาลเพราะเป็นคนละฐานความผิด การถอดถอนดังกล่าวยังสามารถต่อสู้ได้อีกหลายประเด็น ส่วนคดีนี้ก็ต้องสู้กันต่อไป พร้อมเปิดเผยได้ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการออกหนังสือเดินทางจากนายสุรพงษ์ ได้แสดงความเป็นห่วง ทั้งนี้เชื่อว่าเนื้อหาในรูปคดีไม่น่าเป็นปัญหา