เปิดไทม์ไลน์เหตุการณ์ในซอยสุขุมวิท 11 ที่มีกลุ่ม LGBTQ+ ชาวไทย ที่เรียกตัวเองว่า “กะเทยไทย” มารวมตัวกว่าพันคนโดยมิได้นัดหมาย เพื่อดักรอกลุ่ม "กะเทยฟิลิปปินส์" ทำให้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกวันนี้เป็น “วันกะเทยผ่านศึก”
วันที่ 5 มี.ค. 67 คุณปิ่น ช่างแต่งหน้า ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนทำงานอยู่ในบริเวณนั้นมากว่า 20 ปี จึงทราบว่าเหตุการณ์เริ่มต้นจาก ปัญหาของกลุ่มคนในซอยสุขุมวิท 11 ระหว่างกะเทยไทย กับ กะเทยฟิลิปปินส์ โดยกะเทยฟิลิปปินส์ มักจะเข้ามาหาเรื่องคนไทย วันเกิดเหตุน้องกะเทยไทยทานข้าวแล้วมีการกระทบกระทั่งกับกะเทยฟิลิปปินส์ ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อตำรวจมาถึงก็จบเรื่องกันแล้วที่โรงพัก แต่อีกฝ่ายกลับมาหาเรื่องกะเทยไทยอีก จนกลายเป็นคลิปที่ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียล
เกิดการตะลุมบอนกันระหว่างกะเทยฟิลิปปินส์กว่า 20 คน รุมทำร้ายกะเทยไทย 2 คน แล้วถ่ายคลิปประจาน แถมขโมยทรัพย์สินของคนไทยไป จึงได้เข้าไปแจ้งความ เมื่อตนเห็นคลิปรู้สึกแย่มาก เนื่องจากคนที่โดนทำร้ายคือรุ่นน้องที่รู้จักกัน พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมชาวต่างชาติถึงเข้ามาทำงานผิดกฎหมายแล้วกล้ากร่างใส่คนไทย นอกจากนี้ยังก่อเหตุลักขโมยแล้วโยนให้เป็นความผิดของคนไทย จึงตัดสินใจลงพื้นที่ไปเคลียร์กับกะเทยฟิลิปปินส์ในโรงแรมของผู้ก่อเหตุ จากนั้นได้มีกลุ่ม LGBTQ+ ได้มารวมตัวกันหน้าโรงแรม จากคลิปเรื่องราวของเหตุการณ์แรกที่เป็นไวรัลในโลกโซเชียล ยืนยันว่าไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดความรุนแรง
คุณโจ้ เจ้าของร้านอาหาร เล่าว่า ตนเข้าไปในพื้นที่เพื่อจะไปทำธุระ แต่พบว่าเกิดเหตุการณ์รวมตัวกันของกลุ่ม LGBTQ+ กว่า 400-500 คน แล้วมีคนมาขอให้ตนเข้าไปช่วยพูดคุยเจรจากับกะเทยฟิลิปปินส์ 4 คน ตนแนะนำให้ตำรวจไปเชิญตัวกะเทยฟิลิปปินส์ลงมาพูดคุยที่โรงพัก ตนได้เข้าไปช่วยพูดคุยเนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมออกจากห้อง เนื่องจากกลัวอารมณ์โกรธของกะเทยไทย ตนได้นำคลิปเหตุการณ์รุมทำร้ายก่อนหน้ามาเป็นหลักฐานจนอีกฝ่ายยอมรับผิด ตนพยายามสื่อสารกับกลุ่มคนที่มารวมตัวให้สลายตัวก่อน เพื่อที่จะได้นำผู้ก่อเหตุไปโรงพัก 2 คนแรกสามารถพาตัวไปโรงพักได้
แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ที่โรงแรมกลับแย่ลง เนื่องจากมีกลุ่มคนมารวมตัวมากขึ้นมากกว่า 1,000 คน มีคนลงมารับอาหารแล้วเต้นยั่วโมโห จนทำให้กะเทยไทยเกิดความไม่พอใจแล้วเข้าไปรุมทำร้าย ตนเข้าไปในโรงแรมอีกครั้งเพื่อพากะเทยฟิลิปปินส์อีก 2 คนที่เหลือไปโรงพัก ตนพยายามสื่อสารกับกลุ่มคนเหมือนเดิม เพื่อให้ตำรวจพาตัวผู้ก่อเหตุไปโรงพัก แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้น ด้วยกำลังคนมหาศาลทำให้ตอนแรกตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อเหตุสงบลงจึงได้พากะเทยฟิลิปปินส์ไปโรงพักได้ ตนได้พูดคุยกับกลุ่ม LGBTQ+ ให้กลับบ้าน เนื่องจากไม่มีผู้ก่อเหตุอยู่ในโรงแรมแล้ว เหตุการณ์จึงคลี่คลายลงด้วยดี
คุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งเกี่ยวกับความเป็นชาติ สิ่งนี้อาจทำให้คนไทยรู้สึกว่าเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ต้องอย่าไปเหมารวมว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตัวแทนของชาวฟิลิปปินส์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีประเด็นปัญหาของอาชีพ sex worker ที่ยังเป็นอาชีพผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกะเทยก็จะยิ่งถูกกดขี่จากสังคมไทย ซ้ำร้ายยังโดนกะเทยชาวต่างชาติมากดขี่ซ้ำเติมอีก ทำให้กลายเป็นความอัดอั้นภายในใจ จนสุดท้ายเกิดเป็นเหตุรุนแรงขึ้น
ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า sex worker ซึ่งเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมายไทย ทำไมคนเหล่านี้ถึงกร่างได้ขนาดนี้ จะต้องตรวจสอบว่าอาจจะมีผู้มีอำนาจเป็นคนให้ท้ายหรือไม่ และสิ่งเหล่านี้คือช่องโหว่ทางกฎหมาย ถ้าหากลูกค้าถูกขโมยของ หรือ sex worker ถูกทำร้าย ก็ไม่สามารถแจ้งความได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายควบคุม จนกลายเป็นระบบมาเฟียแบบปัจจุบัน ปัญหานี้สามารถแก้ไขด้วยการเอารากเหง้าของปัญหามาพูดคุย ผลักดันให้ sex worker เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้ทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการมีกฎหมายควบคุม เพื่อไม่เกิดการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35