logo ถกไม่เถียง

แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหตุ “ครูมัวแต่ถ่ายคลิป” ไม่รีบส่ง รพ. สุดท้ายลูกดับ !

ถกไม่เถียง : จากคลิปวิดีโอที่ครูเห็นว่านักเรียนคนหนึ่ง ป่วยเป็นโรคหัวใจกำลังดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน แต่ครูไม่ได้รีบดำเนินการนำเด็กส่งโรงพยาบาล ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,ch7hd,เด็กป.1,ช็อก,ชัก,ลมชัก,โรคหัวใจ,กำเริบ,ตัวเขียว,ดับ,ครูมัวแต่ถ่ายคลิป,ดิ้นทุรนทุราย,ทุรนทุราย,เหตุฉุกเฉิน,ฉุกเฉิน,ส่งโรงพยาบาล,เด็กเสียชีวิตในโรงเรียน,เสียชีวิตในโรงเรียน,นักเรียนเสียชีวิต,กล้าที่จะก้าว,กาญจนา บานเย็น,อธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์,ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์,ทนายรณณรงค์,รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์,รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี,วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี,หมอหมู

553 ครั้ง
|
14 ก.พ. 2567
จากคลิปวิดีโอที่ครูเห็นว่านักเรียนคนหนึ่ง ป่วยเป็นโรคหัวใจกำลังดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน แต่ครูไม่ได้รีบดำเนินการนำเด็กส่งโรงพยาบาล ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในกรณีเหตุฉุกเฉิน
 
วันที่ 14 ก.พ. 67 คุณกาญจนา บานเย็น (นา) แม่ของเด็กชายที่เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ลูกของตนมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด ก่อเข้าเรียนได้กรอกข้อมูลไปว่าลูกเป็นโรคหัวใจ ซึ่งทางโรงเรียนก็รับทราบ วันที่เกิดเหตุโรงเรียนโทรมาบอกว่าลูกอาเจียนปวดหัว ให้กินยาพาราแล้วยังไม่ดีขึ้น จึงโทรหาคุณตา (พ่อของตน) ให้มารับไปโรงพยาบาล จากนั้นจึงไปขอรูปจากโรงเรียนเพื่อประเมินอาการของลูกชาย
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
โรงเรียนส่งคลิปวิดีโอมาให้ สังเกตเห็นว่ามือกับปากลูกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว สีม่วง แต่ทางโรงเรียนไม่ได้บอกอาการเหล่านี้เลย จึงรีบตัดสินใจเดินทางข้ามจังหวัดตามไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปดูแลลูก แต่ไปถึงเห็นว่าหมอกำลังปั๊มหัวใจสุดท้ายลูกเสียชีวิต หลังจากที่ลูกเสียชีวิตทางโรงเรียนยังไม่เคยเข้ามาพูดคุยหรือแสดงความรับผิดชอบเลย ตนติดใจว่าทำไมครูถึงไม่พาลูกไปส่งโรงพยาบาล ทำไมถึงมัวแต่ยืนถ่ายคลิปทั้งที่ลูกอาการแย่ขนาดนี้ จึงตัดสินใจไปร้องกับเพจกล้าที่จะก้าว
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
คุณอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เล่าว่า จากการตรวจสอบหลักฐาน พบว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมครูไม่พาไปห้องพยาบาล รีบปฐมพยาบาล หรือมีครูคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ มีเพียงญาติของนักเรียนเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนครูกลับยืนถ่ายคลิปโดยไม่สังเกตว่านี่เป็นเหตุฉุกเฉิน ถ้าตนเป็นครูจะรีบพานักเรียนไปโรงพยาบาลทันที จากนี้จะพาคุณแม่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (หมอหมู) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว วิเคราะห์จากหลักฐาน สาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก เกิดจากโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด เชื่อว่าหากหลายคนได้เห็นภาพจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างแย่ อาการชักปากเขียว เกิดเจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หากเกิดอาการชักมากกว่า 3 นาที แล้วไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องอาจทำให้เสียชีวิตได้ เหตุการณ์นี้สิ่งที่ควรทำคือต้องรีบแจ้งรถฉุกเฉินให้เร็วที่สุด ด้านแม่ยืนยันว่าโรงเรียนไม่ได้แจ้งว่ามีการเรียกรถฉุกเฉินโดยทันที เพราะกรณีป่วยฉุกเฉินวิกฤติสามารถพาเข้าโรงพยาบาลทุกแห่งได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามสิทธิ UCEP
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
ผู้อำนวยการโรงเรียน ชี้แจงว่า มีข้อมูลหลายอย่างที่คุณแม่กับโรงเรียนเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน โรงเรียนมีห้องพยาบาล ครูประจำชั้นที่ถ่ายคลิปเป็นหัวหน้างานพยาบาล ปกติแล้วโรงเรียนบางแห่งจะใช้ครูผู้สอนเป็นผู้ดูแลงานพยาบาล จากคลิปเหตุการณ์ ครูอธิบายว่า ก่อเกิดเหตุนักเรียนนั่งทำการบ้านแล้วอาเจียนออกมาครั้งแรก ครูจึงเข้ามาทำความสะอาดตัวนักเรียน ครูถามว่าไหวไหมนักเรียนตอบว่าไหว จากนั้นนั่งเรียนต่อ ครูสังเกตว่านักเรียนมีอาการเพลีย ปวดหัว จึงไปเอายามาให้ ยังไม่ทันได้กินยานักเรียนก็อาเจียนครั้งที่สอง ครูจึงรีบโทรแจ้งแม่ ยืนยันว่าตอนนั้นนักเรียนยังไม่มีอาการชัก ปากเขียว
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
ขั้นตอนในการตัดสินใจระหว่างเกิดเหตุ เนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน จึงไม่สามาารถประเมินอาการได้ เพราะนักเรียนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ และแม่บอกว่าให้รอคุณตาของนักเรียนมาถึงก่อน จึงยังไม่ได้ดำเนินการอะไรนอกจากช่วยปฐมพยาบาลเบื่องต้น ระหว่างจะที่โทรเรียกรถฉุกเฉินคุณตาได้มาถึงพอดี จึงได้ถามคุณตาว่าให้เรียกรถพยาบาลไหม แต่คุณตายืนยันว่าจะพาหลานไปส่งโรงพยาบาลเอง สถานการณ์นั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกละหุกที่ไม่มีใครกล้าตัดสินใจจึงเกิดเหตุสลดขึ้น เบื้องต้นทางโรงเรียนได้ประสานช่วยเหลือครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต ทั้งในระหว่างงานศพ และการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น หลังจากนี้จะมีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเขตพื้นที่จะเข้ามาช่วยอบรมให้ความรู้บุคลากรเพื่อให้มีความพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
 
ถกไม่เถียง : แม่ติดใจ ลูกชาย “ดิ้นทุรนทุราย” เหต
 
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เหตุการณ์นี้จะต้องมีการชี้แจงจากโรงเรียน เนื่องจากในคลิปมีคนพูดว่าผีเข้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดในเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควรพูดในสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่า ถ้าหากครูประเมินอาการนักเรียนไม่ได้ ก็ควรรีบพาไปส่งสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ต้องมาถอดบทเรียน ควรจะต้องมีมาตรการในการส่งนักเรียนป่วยฉุกเฉินไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และต้องหยุดที่จะโทษกันไปโทษกันมา ตามหลักกฎหมายสามารถตรวจสอบว่าครูได้ทำตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่
 
ติดตาม  รายการ "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
-

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง